อ่านเกม 'ลิโพ' สร้างสมรภูมิเครื่องดื่มชูกำลัง 'พรีเมียม-ผู้หญิง'
“ลิโพ” เป็นเครื่องดื่มชูกำลังแบรนด์แรกที่บุกเบิกตลาดในประเทศญี่ปุ่นและไทย โดยเกิดจาก 2 บริษัท “ร้อยปี” อย่าง “ไทโช ฟาร์มาซูติคอล” ได้ผนึกกับ “โอสถสภา” ผลิตสินค้าหมวดสุขภาพตอบสนองผู้บริโภค และยืนหยัดมาถึง 55 ปี
เมื่อเทรนด์ผู้บริโภคเปลี่ยน นอกจากคุณประโยชน์ดื่ม ให้พลังงาน กระแสผู้บริโภคที่รักสุขภาพ การมองหาฟังก์ชั่นอื่นๆเพิ่มเติม ส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง 3 หมื่นล้านบาท ต่างพลิกสูตรพัฒนาสินค้าที่มีเพิ่มทั้งวิตามิน สมุนไพร ล่าสุด ถึงคิว “ลิโพ” ยกเครื่องบ้าง ชูโปรดักท์มี “ทอรีน 1,000 มิลลิกรัม” หรือกรดอะมิโน การันตีคุณภาพญี่ปุ่นด้วย และยังปรับฉลาก ใช้ชื่อแบรนด์เป็นภาษาญี่ปุ่น มีสัญลักษณ์ทอรีนบอกจุดขาย เป็นต้น
ยูคิโอะ ซาวาดะ
“แม้ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของไทยจะไม่โต แต่เรามองโอกาสในการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดต่อเนื่อง และลิโพถือเป็นเครื่องดื่มชูกำลังแบรนด์แรกในไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดที่ประสบสำเร็จอย่างมาก จากการมีโอสถสภาเป็นพันธมิตรที่ดีอย่างยาวนาน และได้แรงหนุนจากตัวแทนจำหน่ายที่ช่วยกระจายสินค้าเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย เป็นการส่งต่อสินค้าจากญี่ปุ่นสู่คนไทย” ยูคิโอะ ซาวาดะ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท โอสถสภา ไทโช ฟาร์มาซูติคอล จำกัด ให้เหตุผล
ทำตลาดมา 55 ปี แต่จากนี้ไป เครื่องดื่มชูกำลังของลิโพ กำลังเข้าสู่ New Stage เพราะจากนี้ไปจะเห็นการพัฒนาสินค้าใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคเฉพาะเจาะจงมากขึ้น
เมื่อไทยมีประชากรส่วนใหญ่เป็น “ผู้หญิง” จึงเตรียมส่งสินค้าเจาะกลุ่มดังกล่าวโดยเฉพาะ ขณะที่พอร์ตโฟลิโอของไทโชฯ ญี่ปุ่นมีสินค้ามากถึง 20 รายการ และได้รับความนิยมเกือบทุกรายการ
“เทรนด์ผู้บริโภคที่เป็นผู้หญิง คนรุ่นใหม่มากขึ้น เราจะพัฒนาสินค้าเจาะกลุ่มนี้ ทำให้ต้องเพิ่มกำลังการผลิตและการกระจายสินค้ามากขึ้น” จากปัจจุบันลิโพ มีสินค้า 2 รายการ ได้แก่ ลิโพวิตัน-ดี และลิโพ-พลัส ซึ่งเป็นสูตรน้ำตาลน้อยกว่า มีกำลังการผลิตราว 300 ล้านขวดต่อปี
ประวาล โรจนพฤกษ์
ประวาล โรจนพฤกษ์ ผู้อำนวยการการตลาดผลิตภัณฑ์ลิโพ บริษัท โอสถสภา จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า บริษัททุ่มงบ 30 ล้านบาท จัดแคมเปญ “55 ปีแห่งการส่งต่อ” ลิโพผสมทอรีนคุณภาพญี่ปุ่น 1,000 มก. จากญี่ปุ่นถึงไทย เพื่อตอกย้ำสินค้า “พรีเมียม” รวมถึงรับกระแสผู้บริโภคสุขภาพ เห็นได้จากแบรนด์ที่ทำตลาดมีการแข่งขันในเรื่องของประโยชน์หรือฟังก์ชั่นนอลสินค้ามากขึ้น
“วันนี้ไม่ใช่แค่พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังก็เปลี่ยน เพราะนอกจากลิโพ ตลาดเน้นไปที่ประโยชน์สินค้า อย่างโสมอินซัม ให้พลังงาน ความสดชื่น และโสม ส่วนตลาดรวมเครื่องดื่มชูกำลังยังมีการเติบโต จะเห็นว่า 20 ปีก่อน มีผู้เล่นไม่กี่แบรนด์ แต่ปัจจุบันแบรนด์ใหม่ๆเกิดขึ้นจำนวนมาก ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกเพิ่ม”
อย่างไรก็ตาม กุญแจที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้า แบรนด์มาเป็นอันดับ 1 ตามด้วยรสชาติ และความสะดวกในการซื้อ(ช่องทางจำหน่ายทั่วถึง :Reach) ส่วนราคาไม่มีผลมากนัก
สำหรับตลาดเครื่องดื่มชูกำลังหมวดใหญ่ (Mass) ราคาขาย 10 บาทต่อขวด มีสัดส่วน 80% ส่วนพรีเมี่ยมราคา 12 บาทขึ้นไป มีสัดส่วน 20% ของตลาดรวม พอร์ตโฟลิโอของโอสถสภา มีสินค้าหลากหลาย โดยพรีเมี่ยมมีทั้งชาร์ค ราคา 25 บาท จับคนรุ่นใหม่ โสมอินซัม จับกลุ่มผู้หญิง ฯ นอกจากนี้ ลิโพขายผ่านช่องทางร้านค้าทั่วไป 75% และโมเดิร์นเทรด 25% โดยตลาดกรุงเทพฯ และภาคกลางเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์
“ลิโพมีแชร์เป็นเบอร์ 1 ในตลาดพรีเมียม เป็นเบอร์ 4 ในตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง” ด้านส่วนแบ่งทางการตลาดรวม(Corporate)โอสถสภาเป็นเบอร์ 1 ตามด้วยคาราบาวแดง และกระทิงแดง