‘ผบ.ตร.’ เผยปมสังหารกำนันสาว ปฏิบัติตามหน้าที่ทวงคืนผืนป่า
“บิ๊กแป๊ะ” เผยปมสังหารกำนันสาว ปฏิบัติตามหน้าที่ทวงคืนผืนป่า สร้างความเสียหายให้ 2 นายทุนในพื้นที่หนองคาย จนนำมาสู่การจ้างมือปืนบุกยิง
เมื่อวันที่ 15 ก.พ.63 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการปราบปราม เดินทางมาสอบปากคำผู้ต้องหาคดียิงกำนันเตี้ย ภายในห้องสวัสดิการอาหาร ของกองบังคับการปราบปราม ซึ่งเป็นห้องกระจก โดยให้สื่อมวลชนเก็บภาพอยู่บริเวณข้างนอกเท่านั้น
ในการสอบปากคำนั้น เจ้าหน้าได้ที่นำตัว นายสามารถ ผู้จ้างวาน นายสำริด ผู้จ้างวาน นายประสิทธิ์ คนรับงานและดูแลมือปืนในพื้นที่ นายธนภูมิ มือปืน ส่วนนางสาวพนิดา ภรรยานายธนภูมิ ซึ่งถูกจับกุมตัว แต่ไม่ได้ถูกพาตัวมานั่งสอบปากคำด้วย
โดยระหว่างการสอบปากคำนั้น นายธนภูมิ มือปืนรับสารภาพว่า ก่อเหตุจริง แต่นายประสิทธิ์ คนรับงานนั้น กลับให้การปฎิเสธไม่รู้เห็นเรื่องนี้ ทำให้นายธนภูมิ โกรธลุกขึ้นทุบตัวนายประสิทธิ์ โดยยังใส่กุญแจมืออยู่ด้วยที่เจ้าหน้าที่ชุดหนุมานได้เข้ามาห้ามปรามไว้ได้ทัน โดยให้ทั้ง 2 สงบสติอารมณ์ ซึ่งการสอบปากคำนี้ใช้เวลา 15 นาทีจึงแล้วเสร็จ ก่อนนำตัวไปแถลงข่าว
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้กล่าวเปิดแถลงว่า คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 1 กุมภาพันธ์ มีคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม.ยิงกำนันเตี้ยเสียชีวิต หลังเกิดเหตุ ตนได้สั่งการให้ผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบ ตนเองก็ได้ลงพื้นที่จ.หนองคาย ในวันที่ 3 และ11 กุมภาพันธ์ จนวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ศาลจังหวัดหนองคายอนุมัติหมายจับ 5 ผู้ต้องหา ตำรวจจึงทำการจับกุมคนร้ายทั้งหมดในทันที
โดยนายสามารถ ซึ่งเป็นอดีตกำนันตำบลสมอทอง อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ถูกจับกุมได้ที่จ.สุราษฎร์ธานี นายสำริดและนายประสิทธิ์ ถูกจับกุมได้ที่จังหวัดหนองคาย ส่วนนายธนภูมิและนางสาวพนิดาถูกจับได้ที่กรุงเทพฯ
สำหรับมูลเหตุคดีนี้ เกิดจากผู้ตายทำหน้าที่ทวงคืนผืนป่า 120 ไร่ในพื้นที่ ซึ่งถูกนำไปใช้ประโยชน์เป็นสวนยางพารา ซึ่งเมื่อถูกทวงคืน ทำให้นายสามารถและนายสัมริท ซึ่งลงทุนปลูกยางพารากลายเป็นผู้เสียผลประโยชน์มหาศาล
นอกจากนี้ ยังจะมีการทวงคืนผืนป่าในพื้นที่เพิ่มเติมอีก โดยผู้ตาย มีส่วนช่วยจัดการเรื่องทวงคืนนี้ด้วย ยิ่งทำให้ผู้จ้างวานทั้ง 2 คน ไม่พอใจ และกลัวว่า ถ้ามีการทวงคืนผืนป่าอีกจะได้รับความเสียหายมากกว่าเดิมอีก จึงวางแผนจ้างวานฆ่ากำนันรายนี้เสีย โดยนายสามารถ รับทำหน้าที่เป็นคนจัดหาให้นายประสิทธิ์ ไปหามือปืนต่อ ในราคา 2 แสนบาท โดยมีการจ่ายเงินบางส่วน ยังเหลืออีกส่วนที่ยังไม่ได้จ่าย
ทั้งนี้นายสามารถ นายสัมริต นายประสิทธิ์ เป็นชาวสุราษฎร์ธานี แต่ทั้ง 3 คน ขึ้นไปทำสวนยางพาราที่จังหวัดหนองคายและมีเรื่องกระทบกระทั่งกับผู้ตายเรื่อยมา เพราะผู้ตายเป็นคนตรง ทำตามหน้าที่ เมื่อนายประสิทธิ์ ได้รับคำสั่งให้จัดงานหามือปืนก็รู้ว่าจะต้องติดต่อนายธนภูมิ ซึ่งเป็นมือปืนในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้มารับงาน นายธนภูมิ จึงพา นางสาวพนิดา ร่วมก่อเหตุด้วย
จากการตรวจสอบประวัตินายธนภูมิ มือปืนในคดีนี้ พบว่าเคยต้องโทษคดียาเสพติด ในเรือนจำมา 7 ปี โดยวิธีการก่อเหตุของมือปืนรายนี้ คือจะใช้แฟนสาวขับรถไปรับตอนก่อเหตุเสมอเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่
เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ มีเพียงนายธนภูมิคนเดียวเท่านั้นที่รับสารภาพ ทางตำรวจจึงแจ้งข้อหา ร่วมกันเป็นผู้จ้างวานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองแก่นายสามารถและนายสำริต ส่วนนายประสิทธิ์ นายธนภูมิและนางสาวพนิดา ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยนายธนภูมิ ยังโดนข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองด้วย
วันนี้เจ้าหน้าที่จะพาผู้ต้องหาทั้งหมดกลับไปจังหวัดหนองคาย และพรุ่งนี้(16 กุมภาพันธ์ 2563) จะพานายธนภูมิ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และชี้จุดเกิดเหตุ ก่อนจะถึงวันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ ตำรวจจะคุมตัวทั้งหมดส่งศาลจังหวัดหนองคาย ตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป