‘จีเอ็ม’ จ่อทิ้งตลาด ‘ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์’

บริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) แถลงในวันนี้ (17 ก.พ.) ว่า จะยุติการผลิตรถแบรนด์โฮลเดนในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ภายในปี 2564 นับเป็นการย้ายฐานการผลิตออกจากออสเตรเลีย ตาม “ฟอร์ด” และ “โตโยต้า” ที่ทิ้งตลาดแดนจิงโจ้ตั้งแต่ปี 2560

นายจูเลียน บลิสเซตต์ รองประธานอาวุโสฝ่ายบริหารของจีเอ็มแถลงว่า พนักงานจีเอ็มในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ประมาณ 600 คนจะถูกเลิกจ้างในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่เจ็บปวดและผ่านการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน หลังบริษัทเห็นแล้วว่าไม่สามารถลงทุนเพื่อให้แบรนด์โฮลเดนแข่งขันหรือมีกำไรได้ในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม บริษัทจีเอ็มจะยังคงพนักงานไว้ราว 200 คนเพื่อดูแลรถโฮลเดนที่ยังอยู่บนท้องถนนราว 1.6 ล้านคัน และจะให้บริการหลังการขายแก่ลูกค้าต่อไปอีกอย่างน้อย 10 ปี

ทั้งนี้ โฮลเดน เป็นแบรนด์รถยอดนิยมในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์มาช้านาน หลังจากจีเอ็มก่อตั้งแบรนด์นี้ในออสเตรเลียตั้งแต่ปี 2399

- รถโฮลเดน ซึ่งเป็นแบรนด์ยอดนิยมในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ -

ด้าน นางแมรี บาร์รา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของจีเอ็ม แถลงในวันอาทิตย์ (16 ก.พ.) ว่า จีเอ็มมุ่งเน้นตลาดที่บริษัทมียุทธศาสตร์ในการทำกำไรและหันไปให้ความสำคัญกับการลงทุนที่จะขับเคลื่อนการเติบโตของอนาคตยานยนต์ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าและรถไร้คนขับ

จีเอ็มเผยว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะใช้ต้นทุนที่เป็นเงินสดและไม่ใช่เงินสดรวม 1,100 ล้านดอลลาร์ (ราว 34,330 ล้านบาท) รวมถึงการเลิกจ้าง 1,500 ตำแหน่งในไทย และ 828 ตำแหน่งในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

ก่อนหน้านี้ จีเอ็มระบุว่า ได้ตกลงจำหน่ายโรงงานประกอบในจ.ระยอง ให้แก่บริษัทเกรท วอลล์ มอเตอร์ หนึ่งในผู้ผลิตรถอเนกประสงค์ใหญ่ที่สุดของจีนแล้ว คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2563 ถือเป็นการปิดฉากการขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของจีเอ็ม

ด้านเกรท วอลล์ มอเตอร์ เผยว่า จะจำหน่ายรถที่ผลิตในโรงงานประกอบในไทย หรือกลุ่มประเทศอาเซียนและออสเตรเลีย เพื่อขยายกิจการในต่างประเทศในยามที่ความต้องการในตลาดจีนชะลอตัว

ในปี 2560 จีเอ็มในยุคบริหารของนางบาร์รา ขายธุรกิจรถแบรนด์ “โอเปิล” และ “วอกซ์ฮอลล์” ในยุโรปให้กับบริษัทเปอโยต์ เอสเอ และออกจากตลาดแอฟริกาใต้และตลาดอื่น ๆ ในทวีปแอฟริกา จากนั้น จีเอ็มยังได้ถอนตัวจากเวียดนาม อินโดนีเซีย และอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดที่ไม่ทำกำไรให้บริษัท ขณะเดียวกันก็หันไปโฟกัสตลาดสหรัฐ จีน ละตินอเมริกา และเกาหลีใต้ ที่มียังมีศักยภาพอยู่

ขณะที่เกรท วอลล์ ตกลงเมื่อเดือน ม.ค. ว่า จะซื้อโรงงานจีเอ็มในอินเดีย โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในช่วงครึ่งหลังของปี 2565