นลท.แพนิกหุ้นโรงไฟฟ้า ฉุดราคาหุ้นร่วงยกแผง
ราคาหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าปรับตัวร่วงแรง หลังนักลงทุนแห่เทขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยง ด้านโบรกฯ คาดยังมีความเสี่ยงที่จะปรับลดลงได้อีก ตราบใดที่ภาวะตลาดหุ้นยังมีความเสี่ยงอยู่ คาดปีนี้ไม่ใช่ปีทองของหุ้นโรงไฟฟ้าแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพบความเคลื่อนไหวราคาหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าปรับตัวร่วงแรง นำโดยบมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) ปรับตัวลดลง 5.86% มาอยู่ที่ระดับ 52.25 บาท หรือลดลง 3.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,002 ล้านบาท,บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ปรับตัวลดลง 4.95% มาอยู่ที่ระดับ 72.00 บาท หรือลดลง 3.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,892 ล้านบาท,บมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ปรับตัวลดลง 3.46% มาอยู่ที่ระดับ 181.50 บาท หรือลดลง 6.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,425 ล้านบาท บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ปรับตัวลดลง 2.09% มาอยู่ที่ระดับ 46.75 บาท หรือลดลง 1.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 320 ล้านบาท,บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) ปรับตัวลดลง 1.18% มาอยู่ที่ระดับ 63.00 บาท หรือลดลง 0.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 217 ล้านบาท และบมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) ปรับตัวลดลง 1.01% มาอยู่ที่ระดับ 295.00 บาท หรือลดลง 3.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 193 ล้านบาท
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล. เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่าคาดว่าราคาหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ปรับตัวร่วงแรงน่าจะเกิดจากแรงขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงของนักลงทุน หลังจากภาวะตลาดหุ้นไทยถูกกดดันจากปัจจับทั้งภายในและภายนอกประเทศ ซึ่งกลุ่มโรงไฟฟ้าถือเป็นกลุ่มแรกๆที่จะถูกเทขายออกมาเพื่อลดความเสี่ยง เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างสูงในช่วงก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ประเมินว่าหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้ายังมีความเสี่ยงที่จะปรับลดลงได้อีก ตราบใดที่ภาวะตลาดหุ้นยังมีความเสี่ยงอยู่ทั้งภาวะเศรษฐกิจและปัจจัยการเมืองในประเทศ โดยเชื่อว่าปีนี้ไม่ใช่ปีทองของหุ้นโรงไฟฟ้าแล้ว ซึ่งการจะเห็นราคาหุ้นกลุ่มดังกล่าวกลับไปเด้งแรงๆเหมือนปีที่ผ่านมาคงจะยาก เพราะภาวะที่เคยเอื้อกลุ่มโรงไฟฟ้าน้อยลง พร้อมแนะนำนักลงทุนที่จะเข้าไปลงทุนหุ้นโรงไไฟฟ้าช่วงนี้ต้องพิจารณาภาวะของตลาดประกอบด้วย