ราชทัณฑ์แจง 'ไล่ออก-ดำเนินคดีอาญา' อดีตผู้คุมเรือนจำ ลอบนำมือถือขายนักโทษ
"อธิบดีราชทัณฑ์" แจงไล่ออก-ดำเนินคดีอาญา อดีตผู้คุมเรือนจำลักลอบนำโทรศัพท์มือถือขายนักโทษตั้งแต่ปี 54 อัยการยื่นฟ้องคดีปี 62 ส่วนผู้ต้องหาหลบหนี ป.ป.ท.เพิ่งตามจับตัวได้ที่หน้าบ้านพักย่านนนทบุรี นำส่งศาลแล้ว
เมื่อวันที่ 19 ก.พ.63 พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) จับกุม นายสมเกียรติ อดีตผู้คุมเรือนจำลักลอบนำโทรศัพท์มือถือเข้าไปขายให้นักโทษ ว่า ผู้ต้องหารายดังกล่าวเป็นอดีตผู้กลุ่มเรือนจำมีนบุรีที่ถูกไล่ออกจากราชการไปตั้งแต่ปี 54 เนื่องจากในวันที่ 12 ก.พ.54 เวลา 08.10 น. นายสมเกียรติถูกตรวจค้นพบว่าแอบซุกซ่อนนำโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง พร้อมซิมการ์ด 2 ชิ้น เข้าไปในเรือนจำเพื่อขายให้กับผู้ต้องขัง
โดยระหว่างการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรมราชทัณฑ์ได้สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค.54 จากนั้นในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการสามัญประจำกรมราชทัณฑ์ (อ.กพ.)กรม เมื่อวันที่ 30 ส.ค.54 มีมติไล่ออกจากราชการพร้อมดำเนินคดีอาญา อัยการยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง แต่นายสมเกียรติหลบหนี ศาลจึงได้ออกหมายจับ กระทั่งถูกตำรวจจับกุมตัวได้ในวันที่ 17 ก.พ.62 กรณีของนายสมเกียรติจึงไม่ใช่การเกษียณอายุราชการในปี 58 แต่ได้ถูกไล่ออกจากราชการและดำเนินคดีอาญาตั้งแต่ปี 54
ด้าน พ.ต.ท.งามพล บุญลิ่มเต็ง ผอ.กองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 1 กล่าวว่า คดีนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ท.) ได้ตั้งอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง และพฤติกรรมของนายสมเกียรติแล้ว จึงมีมติชี้มูลความผิดตามมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต จากนั้นได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งให้พนักงานอัยการเพื่อดำเนินการสั่งฟ้อง ต่อมาอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้อนุมัติหมายจับลงวันที่ 22 พ.ย.62 จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวมาฟ้องคดี โดยเจ้าหน้าที่สืบทราบว่านายสมเกียรติน่าจะอยู่ที่บ้านพักใน ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงเข้าจับกุมตัวได้ที่หน้าบ้านพักเมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ก่อนนำตัวไปยื่นฟ้องที่ศาลอาญาฯ ในวันเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีดังกล่าว กรมราชทัณฑ์ ได้เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับนายสมเกียรติ ในฐานะที่ใช้อำนาจหน้าที่ผู้คุมเรือนจำสลับเปลี่ยนเวรตัวเองนำโทรศัพท์มือถือ ไปจำหน่ายให้กับผู้ต้องขังหลายรายในเรือนจำ คิดราคาจำหน่ายแพงกว่าราคาเครื่องปกติหลายเท่าตัว