‘เจดีดอทคอม’ กระแสแรง ตามติดยักษ์อาลีบาบา
หนึ่งในเรื่องที่น่าจับตามองของวงการอีคอมเมิร์ซ การร่วมมือระหว่างเจดีดอทคอม ยักษ์เบอร์ 2 รองจากอาลีบาบา ที่ผนึกกำลังกับเครือเซ็นทรัล เปิดให้บริการเจดีเซ็นทรัล (JD Central) ในปีที่ผ่านมา จะเดินเกมรุกอย่างไร
เชื่อว่าเวลานี้คนไทยจำนวนไม่น้อย เริ่มที่จะรู้จักกับแพลตฟอร์มใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซและกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของจีน อย่างวีแชทและอาลีเพลย์กันบ้างแล้ว เพราะทั้งสองแอพเป็นกระเป๋าเงินออนไลน์ที่คนจีนนิยมใช้งานมากที่สุด ทั้งวีแชทยังมีการเชื่อมโยงการทำงานเข้ากับเว็บอีคอมเมิร์ซชื่อดังของจีนคือ เจดีดอทคอม (JD.com) ซึ่งในเวลานี้เข้ามาในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว
เจดีดอทคอม เป็นเว็บชื่อดังในเครือของบริษัท Jingdong ผู้ให้บริการด้านเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีน ซึ่งในปัจจุบันเข้ามาอยู่ในเครือของบริษัทเท็นเซนต์ บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีและผู้ให้บริการวีแชทที่คนจีนใช้งานมากที่สุดในเวลานี้
ข้อมูลน่าสนใจก็คือ เจดีดอทคอมออกมาประกาศถึงรายได้ของบริษัทเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมาว่า ไตรมาสล่าสุดสามารถทำรายได้ถึงหลัก 1.2 แสนล้านหยวน หรือประมาณ 1.18 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนในช่วงเวลาเดียวกันราว 45%
นับว่าเป็นเว็บอีคอมเมิร์ซแบบบีทูซี (Business to Consumer) อันดับ 2 ในประเทศจีน โดยเป็นรองเพียงแค่เว็บชื่อดังอย่างทีมอลล์ ในเครืออาลีบาบา ของแจ็คหม่าเพียงเท่านั้น แม้ว่าสัดส่วนตลาดที่เจดีครองอยู่จะเป็นรองกว่าเท่าตัวก็ตาม
ข้อมูลน่าสนใจก็คือ เจดีดอทคอมออกมาประกาศถึงรายได้ของบริษัทเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมาว่า ไตรมาสล่าสุดสามารถทำรายได้ถึงหลัก 1.2 แสนล้านหยวน หรือประมาณ 1.18 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนในช่วงเวลาเดียวกันราว 45%
สำหรับในส่วนของผลกำไรหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วในไตรมาสสุดท้าย ปี 2562 อยู่ที่ประมาณ 7.4 พันล้านหยวน ขณะที่ช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ราว 1.7 พันล้านหยวน
หากถามว่าทำไมจึงเติบโตได้มากขนาดนี้ ปัจจัยสำคัญพบว่า การที่เว็บเจดีดอทคอมเชื่อมโยงการให้บริการเข้ากับแอพพลิเคชั่นวีแชท มีส่วนไม่น้อยต่อการเพิ่มขึ้นของปริมาณผู้บริโภคที่เข้ามาใช้บริการของเว็บ
ทั้งนี้เนื่องจากวีแชทเป็นแอพลิเคชั่นที่คนจีนมีการเข้าลงทะเบียนและใช้งานสูงสุดในเวลานี้ โดยมีจำนวนผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนสูงถึง 1,000 ล้านคน ในประเทศจีน นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจาก CIW ชี้ว่า ลูกค้าประจำปีที่ลงทะเบียนใช้งานอยู่ของเว็บเพิ่มขึ้นเป็น 310.5 ล้านคน หลังจากเดือน ธ.ค.2561 ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนอยู่ที่ 305.3 ล้านคน
นอกจากนี้ ทางเว็บยังมีนำระบบ “Data’s Crowdsourcing” เข้ามาช่วยสำหรับบริการของซูเปอร์มาร์เก็ตในเครือ รวมถึงช่องทางออนไลน์ จะช่วยให้ทำการวิเคราะห์ตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใช้จ่ายและซื้อสินค้า ซึ่งมีการบันทึกข้อมูลไว้ในระบบ ช่วยให้ประเมินพฤติกรรมผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ได้ดียิ่งขึ้น
ที่น่าสนใจจากตัวเลขรายได้ในไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา ซึ่งจำนวนลูกค้าผู้ใช้งานยังเพิ่มขึ้นราว 15% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันจากปีก่อนหน้า เป็นตัวชี้ชัดว่าเจดีดอทคอมเป็นเว็บอีคอมเมิร์ซที่มาแรงมากของจีน และน่าจับตามองอย่างมาก
การที่เว็บดังกล่าวเข้ามาในไทย พร้อมผนึกกำลังร่วมมือกับเครือเซ็นทรัล และเปิดให้บริการเจดีเซ็นทรัล (JD Central) ในปีที่ผ่านมา แม้ว่าการตอบรับจะยังไม่สูงมาก ทว่าก็ถือว่าเป็นอีกช่องทางที่น่าจับตามองอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลลดราคากลางปี และในช่วงปลายปีที่กำลังจะถึงนี้