'สุทิน' ชี้ปมเอื้อคนรวย-ไม่ช่วยคนจน ต้นเหตุไม่ไว้วางใจ
"สุทิน" ซัดรัฐบาลเปิดห้องให้เสือกินเนื้อสด ชี้ปมเอื้อคนรวย-ไม่ช่วยคนจน ต้นเหตุไม่ไว้วางใจ ระบุ นโยบายประชารัฐต้นตอความเหลื่อมล้ำ-เอื้อนายทุน ชี้บัตรสวัสดิการแจกเงิน ส่อซ้ำรอยเหตุการณ์เวเนซูเอล่า โอ่ประเทศยังไม่วิกฤตเพราะมีบัตรทอง
เมื่อวันที่ 25 ก.พ.63 นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายในการประชุมสภาฯ ซึ่งพิจารณาญัตติทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ในสาระสำคัญต่อการไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตอนหนึ่งว่า นายกฯ เป็นบุคคลที่มีปมด้อย เพราะเข้าบริหารราชการแผ่นดินด้วยการรัฐประหาร โดยปี 2557 ถูกต่างชาติบอยคอต ส่งผลให้รายได้เข้าประเทศที่มาจากต่างประเทศ อาทิ ส่งสินค้า ร้อยละ 70 หายไป
ส่วนการอภิปรายของฝ่ายค้านที่ระบุว่าพล.อ.ประยุทธ์ เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุน แม้นายกฯ ปฏิเสธว่าไม่ได้เอื้อ แต่ขอให้นายกฯ ชี้แจงต่อสภาฯ อย่างชัดเจนว่าทำไมกลุ่มนายทุน นักธุรกิจถึงร่ำรวยมากขึ้น ตลอด5 ปี อย่างไรก็ตามตนได้ข้อมูลว่าในช่วงแรกของรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ ได้ร่วมลงนามกับกลุ่มธุรกิจ 24 กลุ่ม เพื่อขับเคลื่อนนโยบายประชารัฐ ที่ตนเชื่อว่าเป็นต้นเหตุของความเหลื่อมล้ำ ที่ไม่คำนึงถึงประชาชน แต่มองเฉพาะเอกชน กับรัฐเท่านั้น เท่ากับคนดูแลห้องเก็บเนื้อสด เปิดประตูให้เสือให้เข้าไปกินเนื้อทั้งหมด
นายสุทิน กล่าวด้วยว่าการขับเคลื่อนประชารัฐ นายกฯ ตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนภาครัฐ กับเอกชน จำนวน 12 คณะ ประกอบด้วยกลุ่มนายทุนขนาดใหญ่ เช่น กลุ่มมิตรผล, กลุ่มโรงแรมดุสิต เข้าร่วม รวมถึงตั้งบริษัทประชารัฐสามัคคีทั่วประเทศ แต่ล่าสุดทราบว่าบริษัทดังกล่าวที่ประกอบกิจการอยู่เพียง 5 จังหวัด จาก 77 จังหวัด เนื่องจากเป็นพื้นที่ไม่ทำกำไร อย่างไรก็ตามมีข้อมูลที่ถูกเผยแพร่ผ่านเอเชียไทม์ ระบุว่าการดำเนินงานภายใต้โครงการประชารัฐ
ทำให้กลุ่มทุนที่ผลิตเบียร์และสุราพื้นบ้าน เพิ่มมูลค่าขายมากขึ้น เช่น สุราพื้นบ้าน เดิมขวดละ 70 บาท ล่าสุด 120 บาท เป็นต้น ซึ่งเป็นพฤติกรรมเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มอุตสาหกรรม ขณะที่ประชาชนไม่ได้รับการดูแล และยังต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้น ผ่านการเก็บภาษีทั้งทางตรง และทางอ้อม รวมถึงมีข่าวที่นำเสนอผ่านสื่อมวลชนระบุด้วยรัฐบาลยังช่วยเหลือกลุ่มนายทุน ผ่านการยึดที่ชาวบ้านกว่า 6,000 ไร่ ทั้งที่ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันรัฐบาลควรช่วยเหลือประชาชนก่อนอันดับแรก ขณะที่ภาษีที่ดินที่รัฐบาลชะลอใช้ ตนตั้งข้อสังเกตว่าเพื่อต้องการช่วยนายทุน
"เงินที่รัฐบาลแจกให้แต่ละเดือน เหมือนเป็นยาชา ที่ทำให้ประชาชนไม่เดือดร้อน แต่กรณีแจกเงินดังกล่าวอาจซ้ำรอยเหมือนประเทศเวเนซูเอร่า ที่แจกบัตรฟาเตอร์แลนด์การ์ดที่มีลักษณะคล้ายกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทำให้ประชาชนไม่ทำงาน รอเงินจากรัฐ ทำให้ธุรกิจเอกชนเจ๊ง เป็นยาจกนับซี่โครง อัตราเงินเฟ้อสูงถึง 8 หมื่นเปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ผมเชื่อว่าประเทศไทยที่ไม่เกิดวิกฤต หรือสงครามความเหลื่อมล้ำ เพราะบัตรทอง หากพล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อไป ตามชุดความคิดที่สร้างความเหลื่อมล้ำ อาจสร้างปัญหาให้ประเทศ ผมขอให้นายกฯ ลาออกเพื่อประเทศ" นายสุทิน อภิปราย