CPN อ่วมพิษ 'โควิด-19' เผย 8 ศูนย์การค้า กระทบหนัก จ่อเยียวยาร้านค้า ลดค่าเช่า 1-2 เดือน
“เซ็นทรัลพัฒนา” ยอมรับ ศูนย์การค้า 8 แห่ง จาก 34 แห่ง อ่วมพิษ “โควิด-19” ชี้หากสถานการณ์ลากยาว 3-4 เดือน ส่อกระทบรายได้ราว 1% จากเป้าเติบโตปีนี้ 8% เตรียมออกมาตรการเยียวยาร้านค้าในศูนย์การค้าทั้ง 8 แห่ง เล็งลดค่าเช่าให้ 1-2 เดือน
นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการเงินบัญชี บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ "โควิด-19" ส่งผลกระทบต่อศูนย์การค้าของบริษัท 8 แห่ง จากทั้งหมด 34 แห่ง เพราะ เป็นศูนย์การค้าที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการจำนวนมากคิดเป็นสัดส่วน 30-40% ของจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการทั้งหมด
ทั้งนี้ 8 ศูนย์การค้าดังกล่าวที่ได้รับผลกระทบนั้นมีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 25% ของรายได้รวมของบริษัท ขณะที่ธุรกิจโรงแรมคาดว่าได้รับผลกระทบ 1 แห่ง คือ โรงแรมฮิลตัน พัทยา แต่เชื่อว่าผลกระทบไม่มากในส่วนธุรกิจโรงแรม เพราะปีนี้บริษัทมีแผนปรับปรุงโรงแรมอยู่แล้ว โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดเบื้องต้นประเมินว่าหากผลกระทบดังกล่าวอยู่ในระดับ 3-4 เดือน จะส่งผลทำให้รายได้ของบริษัทลดลงประมาณ 1% เท่านั้น ซึ่งในปี ปี 2563 บริษัทคาดว่าจะรายได้เติบโต 8% จากปี 2562 ที่มีรายได้ 38,104 ล้านบาท แต่บริษัทยังคงเป้ายอดขายต่อสาขาเดิมปีนี้น่าจะโต 3-4%
สำหรับผลกระทบดังกล่าวสิ่งที่บริษัททำได้ คือ การบริหารจัดการต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายเพื่อทำให้กำไรของบริษัทอยู่ในระดับที่ดี โดยในช่วงนี้บริษัทจะมีการจัดกิจกรรมทางการตลาดในการกระตุ้นการซื้อสินค้าในศูนย์การค้าของบริษัทที่เป็นเคมเปญใหญ่ เพราะ มองว่าอาจจะไม่ได้ผล แต่พิจารณาจะจัดในส่วนเดือนเม.ย.แทน แต่อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในตอนนั้น
นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาช่วยเหลือร้านค้าเช่าพื้นที่ 8 ศูนย์การค้า ในการลดค่าเช่า ว่าจะลดเท่าไร และระยะเวลาการลดว่าจะนาน 1 หรือ 2 เดือน โดยเริ่มลดให้ในเดือนก.พ.
‘บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 63 โต 8% ภายใต้เงื่อนไขภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 นั้น ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทให้ลดลง ซึ่งเบื้องต้นประเมินหากรับผลกระทบ 3-4 เดือน คาดรายได้ลดลง 1% จากที่บริษัทมีศูนย์การค้า 8 แห่งที่ได้รับผลกระทบทั้งที่อยู่ในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาพบนักท่องเที่ยงเข้ามาใช้บริการลดลง10-20%’ นางสาวนภารัตน์
สำหรับปีนี้บริษัทมีแผนที่จะมีการขายสินทรัพย์เข้ากองรีทเพิ่มซึ่งจะได้เงินเข้ามาประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท ในเดือนเม.ย.นี้ หากการขายยังคงแผนเดิมซึ่งจะทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดเข้ามาในการชำระหนี้ จากปีนี้จะมีหุ้นกู้ครบกำหนดกลางปีนี้ 1,500 ล้านบาท และลงทุนของบริษัท
ทั้งนี้ บริษัทยังคงแผนการลงทุน 5 ปีเหมือนเดิม โดยตั้งงบลงทุนไว้ปีละ 2.2 หมื่นล้านบาท ในการพัฒนาศูนย์การค้า โครงการที่พักอาศัย โรงแรม ฯลฯ และคาดว่ารายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 12 %
นางสาววรมน อิงคตานุวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW กล่าวว่า การแพร่ระบาดโควิด-19 นั้น ส่งผลกระทบต่อโรงแรมของบริษัททุกแห่ง (ยกเว้นแบรนด์ฮ็อปอินน์) เพราะลูกค้าของโรงแรมเป็นต่างชาติ 80% โดยลูกค้าอันดับ 1 เป็นชาวจีน รองมาสหรัฐ ซึ่งในช่วงเดือนก.พ. นั้นอัตราเข้าพักโรงแรมของบริษัทลดลงเหลือเฉลี่ย 60% จากเดือนม.ค.อยู่ที่ 80% โดยเบื้องต้นบริษัทประเมินว่าหากผลกระทบดังกล่าวประมาณ 5 เดือน จะทำให้รายได้ปีนี้ของบริษัทไม่เติบโต จากปี 2562 แต่หากผลกระทบอยู่ที่ 8 เดือน คาดว่าจะทำให้รายได้ของบริษัทปรับตัวลดลงเท่าไรนั้นยังไม่สามารถตอบได้ขึ้นอยู่กับความรุนแรง และความยืดเยื้อ ซึ่งเดิมบริษัทตั้งเป้าปี 63 รายได้โต 10% จากปี 2562 ที่มีรายได้ 6,439 ล้านบาท