‘ธรรมนัส’ รัฐมนตรีที่ได้รับคะแนนโหวตไ้ว้วางใจน้อยที่สุด
เปิดประวัติ "ธรรมนัส พรหมเผ่า" เรื่องราวของเขาที่ทำให้เป็นรัฐมนตรีที่ได้คะแนนไม่ไว้วางใจน้อยที่สุด
ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยุติลงแล้ว และหนึ่งในรัฐมนตรีที่ฝ่าด่าน ผ่านอุปสรรคมาได้อีกครั้งคือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งได้คะแนนการโหวตเป็นจำนวน 269 เสียง
ที่บอกว่าฝ่าด่าน ผ่านอุปสรรคอีกครั้ง เพราะนี่เป็นอีกครั้งที่ ร.อ.ธรรมนัส โดนจองกฐิน จากพรรคตรงข้าม เนื่องด้วยตั้งแต่มีชื่อเป็นรัฐมนตรี ประวัติของ ร.อ.ธรรมนัส ก็ถูกขุดคุ้ยออกมาให้ได้ยินอยู่เรื่อยๆ ทั้งการถูกกล่าวหาว่ามีคุณสมบัติไม่เหมาะสม จากการเคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ที่ประเทศออสเตรเลีย การถูกตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับวุฒิการศึกษาปลอม การมีส่วนร่วมกับธุรกิจสีเทา แม้กระทั่งก่อนการอภิปรายก็ยังมีข่าวความขัดแย้งกับ ส.ส.ร่วมพรรค และคาดการณ์กันว่าน่าจะเป็น ส.ส.ที่ได้รับคะแนนโหวตสนับสนุนน้อยที่สุด
ร.อ.ธรรมนัส อายุ 54 ปี เปลี่ยนชื่อมา 3 ครั้ง เดิมชื่อ ยุทธภูมิ โบพรหม, พชร โบพรหม, พชร พรหมเผ่า จนมาถึง ธรรมนัส พรหมเผ่า
ร.อ.ธรรมนัส จบการศึกษาโรงเรียนเตรียมทหารรุ่น 25 และโรงเรียนนายร้อย จปร. รุ่น 36 ก่อนหน้าที่จะเป็นนักการเมือง ธรรมนัสเคยเป็นประธานกรรมการบริษัทในเครือธรรมนัสกรุ๊ป ดำเนินธุรกิจหลากหลาย ที่สำคัญคือการถือหุ้นใน บจก.รักษาความปลอดภัย ที.พี.การ์ด ซึ่งมีพลเอกไตรรงค์ อินทรทัต อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร เป็นหนึ่งในกรรมการบริษัท
เขายอมรับว่าเคยถูกจับในประเทศออสเตรเลียเมื่อปี 2536 จริง ฐานรู้ว่ามีผู้กระทำความผิดแต่ปกปิดแต่ไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ ไม่ได้รับสารภาพว่าเป็นผู้นำเข้า ส่งออก จำหน่ายและผลิตเฮโรอีน และถูกจำคุก 8 เดือน จนได้รับการปล่อยตัว และการเข้าสู่ตำแหน่ง ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 และ มาตรา 98 (10) เนื่องจาก มาตรา 98 (10) ระบุชัดเจนว่า เกี่ยวกับการนำเข้า ส่งออก ผลิต และจำหน่าย
“ผมไม่ได้รับสารภาพว่า นำเข้า ส่งออก และผลิตหรือจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทเฮโรอีน"
ขณะที่ในการตอบอีกข้อซักถามของฝ่ายค้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวตอนหนึ่งว่า
“การเป็นส.สโดยเฉพาะผู้แทนตลาดล่าง เงินเดือนแต่ละเดือนจากการได้รับจากรัฐบาลประมาณ 120,000 บาท ถามว่างานแต่ละงานในฐานะการเป็นสส. มันเลี้ยงพวกเราได้หรือไม่ …ผมเชื่อว่าสส.ไม่ว่าฝ่ายค้านหรือรัฐบาลต่างก็ตระหนักดีว่าเราต้องทำมาหากินเหมือนกัน ไม่ใช่นั้นอยู่ไม่ได้”
และนั่นก็น่าจะอธิบายถึงความเป็นตัวตนของเขา ในแง่ของการ “ทำมาหากิน” ได้ดี
ร.อ.ธรรมนัส เคยทำธุรกิจรักษาความปลอดภัยชื่อ "บริษัท ธรรมนัส การ์ด" ซึ่งเป็นบริษัทแรก ที่ดูแลสนามบินสุวรรณภูมิ แล้วยังมีธุรกิจอื่นๆ อีก เช่น เป็นหุ้นส่วนของ หจก. ขวัญฤดี ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายล็อตเตอรี่รายใหญ่ 1 ใน 5 เสือกองสลากฯ เคยเป็นผู้บริหารพื้นที่ตลาดนัดสวนจตุจักรของการรถไฟแห่งประเทศไทย และยังมีธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ มีทีมฟุตบอลพะเยาเอฟซี และอีกหลากหลายธุรกิจ จนเรียกได้ว่าเขาคือคนมีสีที่เอาดีในการเป็นนักธุรกิจคนหนึ่ง
ร.อ.ธรรมนัส เริ่มงานการเมืองกับพรรคไทยรักไทยเมื่อปี พ.ศ. 2542 ต่อมาในปี พ.ศ. 2557 ได้ลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย แต่การเลือกตั้งดังกล่าวเป็นโมฆะ
จนเมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติเข้ายึดอำนาจ เมื่อปี 2557 เขาเป็นหนึ่งในบุคคลที่ คสช. มีคำสั่งเรียกมารายงานตัว และในปี พ.ศ. 2561 ร.อ.ธรรมนัสได้เข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ โดยได้รับแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการยุทธศาสตร์ภาคเหนือของพรรค และได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพะเยา เขตที่ 1 ชนะอดีตส.ส.เจ้าของพื้นที่เดิมจากพรรคเพื่อไทย
ที่น่าสนใจคือ ร.อ.ธรรมนัส มักมีบทบาทในช่วงสำคัญๆ ของรัฐบาล ตั้งแต่ช่วงฟอร์ม ครม.ประยุทธ์ 2 หลังการเลือกตั้ง โดยปรากฏตัวในร้านกาแฟที่พรรคประชาธิปัตย์
ว่ากันว่าเขาเป็นทั้งคนประสาน คอยหย่าศึกกลุ่มต่างๆ ภายในพรรคพลังประชารัฐ และถ้าจำกันได้ในช่วงที่พรรคเล็กมีท่าทีเลิกสนับสนุนรัฐบาล ก็เป็น ร.อ.ธรรมนัส นี่แหละที่เข้าไป “จัดการ” ท่ามกลางข่าวลือการแจกกล้วย จัดสรรตำแหน่ง จนฟอร์มรัฐบาลได้สำเร็จ
เมื่อปีที่แล้ว ร.อ.ธรรมนัส ถูกตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับวุฒิการศึกษา โดยเว็บไซต์สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรว่า สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย แต่เมื่อค้นหลักฐานแล้วพบว่า แท้จริงแล้วธรรมนัสสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนานาชาติคาลามัส (Calamus International University) ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ถูกขึ้นบัญชีดำ และไม่ได้รับการยอมรับวุฒิการศึกษาในหลายประเทศ
ซึ่งประเด็นนี้ ร.อ.ธรรมนัส ได้นำหลักฐานมาแสดงเพื่อตอบโต้ อย่างไรก็ตามด้วยหลักฐานและคำชี้แจง ตลอดจนประวัติที่ผ่านมา ก็ทำให้ ร.อ.ธรรมนัส ยังถูกตั้งถามในแง่ การขาดคุณสมบัติ-มีลักษณะต้องห้ามการเป็น ส.ส.-รัฐมนตรี และในแง่ของจริยธรรมของนักการเมืองอยู่ดี แต่ถึงเช่นนั้นก็เถอะ ทั้งพล.อ.ประยุทธ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ยังคงสนับสนุนเขา ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งเป็นกระทรวงที่พรรคร่วมรัฐบาลต่างแย่งชิงกันก่อนหน้านี้ก็ยังคงเหนียวแน่น
ขณะที่ในการอภิปรายชี้แจงที่ผ่านมานั้น ร.อ.ธรรมนัส ย้ำว่า ไม่เคยคิดที่จะแอบอ้างในการใช้ ยศทำมาหากิน และพยายามหาหลักฐานมาตลอดว่าตนเองถูกถอดยศแล้วหรือไม่ แต่ก็หาข้อสรุปไม่ได้ และเมื่อได้รับโปรดเกล้าให้ใช้ชื่อร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยเกษตร ก็ใช้ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ส่วนในเรื่องการทำธุรกิจนั้น ทุกวันนี้ตนไม่มีสัมปทานหรือมีคู่สัญญากับสำนักงานสลากฯใดๆแล้ว โดยรายได้ เดือนละ 3 ล้านบาท มาจากค่าเช่าแผงค้าสลากฯ เกือบ 10 แผง ที่ข้างสำนักงานสลากฯ ซึ่งเป็นการเช่าช่วงจากเจ้าของตลาด
การกระทำและคำตอบของ ร.อ.ธรรมนัส นั้นทำให้เขาได้รับคะแนนโหวต 260 เสียง
และทำให้เขาอยู่รอดได้เป็นรัฐมนตรีต่อไป หากแต่ได้รับคะแนนเสียงน้อยที่สุด