ผู้ว่าฯ ยะลา ยืนยันไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส COVID-19
ผู้ว่าฯ ยะลา ยืนยันไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส COVID-19 เตือนผู้โพสต์โซเชียล มีความผิดฐานทำให้ประชาชนตื่นตระหนก
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 14.15 น.ที่ห้องประชุมศรียะลา ศาลากลางจังหวัดยะลา นายชัยสิทธิ์ พานิชพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วย นายสุชาติ อนันตะ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา ได้ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงรายละเอียด หลังมีการโพสข่าวในโซเชียลมีเดียว่ามีชาวยะลา เดินทางไปเที่ยวประเทศเกาหลี และได้กลับมา ทำงานตามปกติ หวั่นติดเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือ COVID-19 และได้มีการแชร์ข้อความนี้กันเป็นจำนวนมาก
นายชัยสิทธิ์ พานิชพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ทางจังหวัดได้ออกประกาศจังหวัดยะลา ชี้แจงกรณีผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศแต่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ โดยเมื่อวานนี้ ( 27 กพ.63 ) ได้มีการเรียกผู้บริหารของหน่วยงานดังกล่าว พร้อมด้วย สาธารณสุขจังหวัดยะลา เข้าร่วมประชุมหารือ และสอบถาม ก็พบว่า ผู้ที่เดินทางไปยังประเทศเกาหลี นั้นไม่ได้เดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ COVID-19 แต่อย่างใด และหลังจากกลับมาก็ผ่านการตรวจร่างกายคัดกรองจากจุดคัดกรองท่าอากาศยานแล้ว ก็ไม่พบว่ามีไข้ หรือ มีอาการที่ต้องสงสัย และล่าสุดก็ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้
“โดยของให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดยะลา อย่าได้ตื่นตระหนกกับข่าวลือแต่อย่างใด และยืนยันว่าในขณะนี้ จังหวัดยะลา ยังไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือ COVID-19 สำหรับพนักงานของธนาคาร 2 รายนั้น ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา ก็ได้ติดตามตรวจดูอาการอย่างต่อเนื่องก็ยังไม่พบว่ามีอาการที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสดังกล่าว” ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าว
ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ที่โพสข้อความทางสื่อโซเชียล ซึ่งได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับพี่น้องประชาชน ให้ระวังอาจจะมีความผิดในฐานเปิดเผยข้อมูลเท็จ ซึ่งก็ได้ประสานให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมทำการตรวจสอบข้อมูล ของผู้ที่โพสดังกล่าวด้วย หากมีความผิดจริงก็จะดำเนินคดีถึงที่สุด
ทางด้านนายสุชาติ อนันตะ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา กล่าวว่า พื้นที่จังหวัดยะลา ยังไม่มีรายงานการพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ COVID-19 แต่อย่างใด ขอให้ประชาชนมีความมั่นใจ ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขเอง ก็ได้มีการปฏิบัติตามมาตรการในการคัดกรองผู้ป่วยอย่างเป็นขั้นตอน ในส่วนของการเฝ้าระวังในพื้นที่นั้น หากผู้ใดมีญาติ ที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่กลุ่มเสี่ยง ก็ขอให้ปฏิบัติตนตามข้อแนะนำของมาตราการป้องกันตนเอง เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ หากมีข้อสงสัยว่าอาจจะติดเชื้อก็ให้เดินทางมายังโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจร่างกาย และป้องกันการแพร่เชื้อในเบื้องต้น