ไม่รอด! จับโชเฟอร์แท็กซี่ แสบรูดทรัพย์นักธุรกิจชาวจีน 3.6 ล้าน คาดทำเป็นขบวนการ

พลตำรวจตรี สามารถ ศรีศิริวิบูลย์ชัย ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ได้สั่งการให้ พันตำรวจเอก ปิโยรส กัณหะสิริ ผู้กำกับการสืบสวนนครบาล 5 , พันตำรวจโท ทองเปลว หาญไพบูลย์ สารวัตรสืบสวนนครบาล 5 พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ฤทธี ปานดำ ผู้กำกับการตำรวจนครบาลคลองตัน และพันตำรวจโท วชิรากรณ์ วงศ์บุญ รองผู้กำกับการสืบสวนนครบาลคลองตัน ร่วมกันนำกำลังเข้าจับกุมตัวนายธนกฤต อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาโชเฟอร์แท็กซี่รูดทรัพย์นักธุกิจชาวจีน หลังจากมามอบตัวที่กองกำกับการสืบสวนนครบาล 5 เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากกรณีโชเฟอร์แท็กซี่ ก่อเหตุรูดทรัพย์นักธุรกิจชาวจีนส่งออกยางพาราในประเทศไทย โดยผู้เสียหายได้เรียกรถแท็กซี่จากสถานบันเทิงย่านพระราม 9 ช่วงเวลา 05.00 น. เพื่อกลับไปยังที่พัก แต่ถูกนำไปทิ้งไว้ริมถนนหน้าซีคอนโด กลางซอยเอกมัย 12 ถนนเอกมัย แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. หลังจากฟื้นขึ้นมา จึงพบว่า ทรัพย์สินได้สูญหายไป ประกอบด้วย นาฬิกาปาเต๊ะ 1 เรือน , แหวนเพชร 2 วง , โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และเงินสดจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่าทรัพย์สูญหายกว่า 3.6 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุผู้เสียหายที่เป็นนักธุรกิจชาวจีน ได้เข้าแจ้งความไว้กับตำรวจนครบาลคลองตัน ก่อนมีการขออนุมัติศาลออกหมายจับไว้ ต่อมาทางตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ เพื่อทำการไล่เส้นทางการหลบหนี ตลอดจนสืบสวนทางเทคนิค ทำให้ผู้ต้องหาเกิดความกดดัน จึงได้เดินทางมาเพื่อแสดงตัวที่ กองกำกับการสืบสวนนครบาล 5 ต่อมาทางตำรวจได้ทำการจับกุมไว้ได้ และคุมตัวสอบสวน

จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ขับขี่รถแท็กซี่มานานหลายปี แต่เงินไม่พอใช้ เพราะต้องส่งเงินให้ลูกเพียงคนเดียว จึงทำให้รู้สึกอยากหาเงินได้ครั้งละมากๆ จึงตระเวนตามแหล่งสถานบันเทิง ย่านอาร์ซีเอ สุขุมวิท เพื่อเลือกผู้โดยสารที่มีทรัพย์สินติดตัวจำนวนมาก หรือสังเกตได้ชัดเจน เช่น นาฬิกาแบรนด์เนม แหวนเพชร โทรศัพท์มือถือ และเน้นชาวต่างชาติ ที่มีอาการเมาสุรา โดยรับจากสถานบันเทิง เมื่อเหยื่อหลับ ก็นำไปทิ้งลงข้างทาง ปลดเอาทรัพย์สินต่างๆ ที่เหยื่อนำติดตัวมา โดยเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้ว 2 ครั้งในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ และสถานีตำรวจนครบาลคลองตัน

โดยพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลคลองตัน ตนได้ลงมือก่อเหตุกับนักธุรกิจชาวจีน ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนก็มารับผู้โดยสารตามปกติ เมื่อเห็นผู้เสียหายมากับกลุ่มเพื่อน ทีแรกคิดว่าจะขึ้นมากันหลายคน แต่เพื่อนของเหยื่อกลับปล่อยให้นอนฟุบหลับบนรถมาเพียงคนเดียว เมื่อขับมาถึงจุดเกิดเหตุก็ได้ลงมือทันทีและทิ้งเหยื่อที่ริมถนน จากนั้นนำนาฬิกาไปจำนำ ส่วนแหวนเพชร 2 วง ไปฝากกับเพื่อนรุ่นน้อง กระทั่งมาทราบข่าวว่าเหยื่อที่ตัวเองลงมือก่อเหตุมีฐานะ และนาฬิการาคาแพง ตนจึงรีบหลบหนีหาที่กบดานทันที เงินที่ได้มาก็นำไปใช้จ่ายระหว่างหลบหนี จนมามอบตัวกับทางตำรวจ

อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การ เชื่อว่าคนร้ายรายนี้ก่อเหตุมาหลายสิบครั้งในช่วงระยะเวลาประมาณ 5-6 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งเชื่อว่ามีขบวนการดังกล่าวอีก ต้องทำการสืบสวนขยายผลอีกครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การพาทรัพย์นั้นไป” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน ตำรวจนครบาลคลองตันดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป