'นิพนธ์' ย้ำนโยบายรัฐ สู้โควิด-19 สั่งผู้ว่าฯ-พาณิชย์ตรวจร้านโก่งราคา
มท.2 คุมเข้มหน้ากากอนามัย ห้ามกักตุน-ส่งออก-โก่งราคาขายไม่เกิน 2.50 บาท/ชิ้น สั่งผู้ว่าฯ พาณิชย์ ตร. ตรวจถี่ พบทำผิดดำเนินคดีทันที แจงคาราวาน โมบาย 111 คัน เร่งกระจาย "แมส" ทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2563 ที่ห้องประชุมราชสีห์ ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมชี้แจงข้อราชการเกี่ยวกับการดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคระบาดโควิด-19 และแผนนโยบายการรับมือการเดินทางกลับของแรงงานไทยที่เข้าเมืองผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ หรือผีน้อย ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (VCS) กับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ โดยนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) เข้าร่วมด้วย
นายนิพนธ์ กล่าวว่า ได้ประสานกับกระทรวงพาณิชย์ ว่าขณะนี้รัฐบาลได้กำหนดให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม ทั้งในส่วนของการส่งออก/นำออกและการครอบครอง การกักตุนสินค้าโดยเฉพาะในส่วนของปริมาณสินค้าและราคา โดยขอความร่วมมือกับทางผู้ว่าราชการจังหวัด พาณิชย์จังหวัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจตราผู้ประกอบการที่จำหน่ายหน้ากากอนามัยในราคาสูงเกินราคาควบคุมต้องไม่เกินชิ้นละ 2.50 บาท ถ้าพบเห็นผู้ประกอบการขายเกิดราคาที่ควบคุมสามารถดำเนินคดีได้ตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ลักษวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ มีความเป็นห่วงให้จัดรถคาราวาน (รถโมบาย) ออกจำหน่ายหน้ากากอนามัยทั่วประเทศ รวม 111 คัน โดยเริ่มวันนี้ (5 มีนาคม) ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด เพื่อบรรเทาปัญหาหน้ากากอนามัยราคาแพงและไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน
นอกจากนี้ นายนิพนธ์ ยังกล่าวถึงความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า ขอความร่วมมือทุกจังหวัดให้เตรียมความพร้อม “ความปลอดภัยทางถนน” โดยแบ่งแนวทางการดำเนินงานเป็น 2 ช่วง แยกเป็นช่วงการเตรียมพร้อมและรณรงค์ประชาสัมพันธ์ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ – 9 เมษายน 2563 และช่วงควบคุมเข้มข้น 7 วันอันตราย วันที่ 10 – 16 เมษายน 2563 โดยขอให้ทางจังหวัดเริ่มดำเนินการประชาสัมพันธ์ สร้างความรู้ความเข้าใจ และสร้างความตระหนักให้กับประชาชน ถึงความปลอดภัยในการใช้ยานพาหนะ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์
โดยเฉพาะอุบัติเหตุที่เกิดจากรถจักรยานยนต์ การบังคับใช้กฎหมาย ขอให้ดำเนินงานตามมาตรการต่างๆ ที่ได้กำหนดไว้ประชุมศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนของจังหวัด ศปถ.อำเภอ ศปถ.อบต. และภาคีเครือข่ายเตรียมความพร้อม โดยเฉพาะมาตรการด่านชุมชน ด่านครอบครัว และนำสถิติที่ผ่านมา วิเคราะห์สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ และเสียชีวิต เพื่อกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป