เพื่อไทย หวัง 'นายกฯ' แสดงความรับผิดชอบ แก้ปัญหาล้มเหลวรอบด้าน
เพื่อไทย เรียกหาความรับผิดชอบจากรัฐบาล แก้ปัญหาล้มเหลวทั้งเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น ด้านเศรษฐกิจที่แย่ลง ปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 หวัง "ประยุทธ์" พิจารณาตัวเอง
เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 63 ที่พรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายโภคิน พลกุล รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ นายชัยเกษม นิติสิริ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค ได้ร่วมประชุมหารือวาระพิเศษ
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ แถลงภายหลังการประชุมว่า วันนี้มีการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์นัดพิเศษ โดยได้พิจารณาถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งปัจจุบันเกิดวิกฤติทั้งด้านสังคม การเมือง เศรษฐกิจ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ประกอบกับที่ผ่านมา ฝ่ายค้านได้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล มีทั้งเรื่องทุจริตคอรัปชั่น ความล้มเหลว ความบกพร่อง ไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลทั้งด้านเศรษฐกิจที่แย่ลง ปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยมาตรการที่รัฐบาลออกมาแต่ละครั้งสับสน ไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้ประชาชนทั้งคนไทยหรือผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ หน้ากากอนามัย ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยตัวเอง มาตรการกักตัวก็ยังสับสน จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นายชัยเกษม นิติสิริ เป็นประธานติดตามตรวจสอบประเด็นหลังการอภิปราย รวบรวมเพื่อให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไปยื่นเอาผิดทางกฎหมายตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
“การที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ วันนี้ก่อให้เกิดความเดือดร้อน ปัญหาในบ้านเมือง เป็นฟางเส้นสุดท้าย แต่ไม่ได้รับการดูแลแก้ไข ด้วยรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ ในการจัดการปัญหาใดๆ เลย หลังการอภิปราย ก็ยังไม่มีการปรับปรุง เห็นแต่ความล้มเหลวในการแก้ปัญหา ประชาชนพึ่งหวังไม่ได้ มีการจัดการปัญหาผิดพลาด พล.อ.ประยุทธ์ ควรแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่รัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาทั้งด้านเศรษฐกิจ ไวรัสโควิด-19 ภัยแล้ง ให้ประชาชนได้เลย จากวิกฤติที่เกิดขึ้นทั้งหมด พล.อ.ประยุทธ์ ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ผิดพลาด ล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน และขอเรียกร้องไปยังพรรคร่วมรัฐบาล การที่ยังร่วมงานกับรัฐบาลที่ไม่สามารถจัดการปัญหากับประชาชนได้นั้น ขอเรียกร้องจิตสำนึก พิจารณาว่าจะสนับสนุนรัฐบาลที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้อย่างไร ซึ่งทั้งหมดเป็นความเห็นจากคณะกรรมการยุทธศาสตร์ที่ได้มีการพูดคุยกัน”คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า การดำเนินการตามกฎหมาย ภายหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตอนนี้มีผู้อภิปราย 3 คน ยื่นหนังสือถึงประธานสภาฯ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้วินิจฉัย 1. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไย ได้ยื่นหนังสือถึง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เพื่อให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานภาพ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ยังพักบ้านหลวงนั้น ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญหรือไม่ และถ้าขัดรัฐธรรมนูญ จะทำให้สถานะรัฐมนตรีสิ้นสุดลงหรือไม่ 2.นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือไปยังประธานสภาฯเพื่อให้พิจารณาส่งไป ป.ป.ช. ขอให้ตรวจสอบกรณีจัดซื้อจัดจ้างเครื่องยืนยันอัตลักษณ์บุคคลหรือเครื่องไบโอเมตริก ขอให้มีการตรวจสอบ พล.อ.ประยุทธ์ และผู้เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ นายชัยเกษม กำลังดำเนินการส่งรายละเอียดไปให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ช่วยตรวจสอบอีกทาง 3.นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือไปให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบพล.อ.ประยุทธ์ แบ่งเป็น 3 กรณีด้วยกันคือ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เสียภาษีให้รัฐจากการขายที่ดินย่านบางบอน เรื่องที่สอง พล.อ.ประยุทธ์ ไม่บังคับให้มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม บริษัท ฟิลิป มอรร์ริส กรณีสุดท้าย พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีพฤติการณ์อาจเกี่ยวข้องจัดซื้อรถหุ้มเกราะ จากประเทศยูเครน โดยเรื่องทั้งหมดได้ยื่นให้ประธานสภาฯ เพื่อให้ยื่นไปยัง ป.ป.ช. เพื่อให้ตรวจสอบแล้วเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีการติดตามตรวจสอบอีกหลายกรณี ที่คณะทำงานด้านกฎหมายดำเนินการอยู่ หากมีความคืบหน้าจะแถลงข่าวให้ทราบต่อไป
นายโภคิน กล่าวว่า หัวใจใหญ่คือรัฐธรรมนูญที่เขียนมาเพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี สืบทอดอำนาจ ตราบใดที่เป็นอย่างนี้ จะแก้ไขปัญหาไม่ได้เลย สิ่งที่จำเป็น พล.อ.ประยุทธ์ ต้องพิจารณาตัวเอง จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อหรือไม่ และประชาชนต้องร่วมผลักดัน ร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง การที่จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป บ้านเมืองไม่มีอนาคตแน่นอน หลังการอภิปราย พรรคเพื่อไทยได้ติดตามต่อ อะไรที่ไม่ถูกต้อง และถ้านายกรัฐมนตรียังเดินต่อไปแบบนี้ บ้านเมืองยิ่งไม่มีอนาคต