กพท.มั่นใจสอบผ่านไอเคโอ ลุ้นคะแนนปีนี้ 60%

กพท.มั่นใจสอบผ่านไอเคโอ ลุ้นคะแนนปีนี้ 60%

"ศักดิ์สยาม" มั่นใจไม่ซ้ำรอยติดธงแดง หลังไอเคโอตรวจสอบมาตรฐานรักษาความปลอดภัยการบิน พบเฉพาะข้อบกพร่องที่ไม่มีนัยยะสำคัญ รวม 44 ประเด็น กพท.เตรียมร่างแผนแก้ไขปัญหาเสนอ ส.ค.นี้ มั่นใจได้คะแนน 60%

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าถึงผลการตรวจสอบมาตรฐานด้านการรักษาความปลอดภัยใต้โครงการ Universal Security Audit Programme – Continuous Monitoring (USAP - CMA) ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ไอเคโอ (ICAO) โดยระบุว่า ไอเคโอได้เดินทางมาสุ่มตรวจสอบมาตรฐานด้านความปลอดภัยของสนามบินในไทย 2 แห่ง คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานภูเก็ต โดยทำการตรวจสอบระหว่างวันที่ 11 – 21 ก.พ.ที่ผ่านมา

โดยเบื้องต้นไอเคโอได้แจ้งผลการตรวจสอบมาตรฐานดังกล่าว ไม่พบข้อบกพร่องที่มีนัยยะสำคัญต่อการรักษาความปลอดภัย และได้แจ้งข้อบกพร่องและข้อสังเกตต่างๆ อย่างไม่เป็นทางการ พบว่าการตรวจสอบในปี 2563 มีรายการคำถามทั้งหมด 497 ข้อ ไทยมีข้อบกพร่องรวม 44 ข้อ ซึ่งถือว่าปรับดีขึ้นจากการตรวจสอบในปี 2560 ที่มีรายการคำถาม 480 ข้อ และพบข้อบกพร่อง 49 ข้อ

158383628154

สำหรับข้อบกพร่องส่วนใหญ่ที่ไอเคโอตรวจพบ เป็นประเด็นเกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรมควบคุมคุณภาพที่ยังดำเนินการไม่ครอบคลุมทุกด้าน โดยเฉพาะด้านการขนส่งสินค้า (Cargo) และบริการครัวการบิน (Catering) ซึ่งทางไอเคโอต้องการให้ตรวจสอบทุกสายการบินที่ทำการบินในไทย รวม 150 สายการบิน นอกจากนี้ ยังมีข้อบกพร่องเกี่ยวกับการปฏิบัติการของสนามบิน การเพิ่มบุคลากรด้านการรักษาความปลอดภัยให้เหมาะสมกับปริมาณของสายการบิน สนามบิน และกิจกรรมที่จำเป็นสำหรับการดูแล

“เมื่อเทียบการตรวจสอบรอบนี้กับการตรวจสอบเมื่อปี 2560 จะเห็นได้ว่าเรามีผลการตรวจสอบที่ดีขึ้น เพราะจากปี 2560 มีรายการคำถาม 480 ข้อ มีข้อบกพร่อง 49 ข้อ และเราได้คะแนนระดับประสิทธิผลอยู่ที่ 55.78% ดังนั้นการตรวจครั้งนี้ ข้อบกพร่องที่มีลดลง จึงมั่นใจได้ว่าคะแนนน่าจะมากกว่าปี 2560 และสบายใจได้ว่าเราจะไม่โดนธงเหลือง หรือธงแดง”

ด้านนายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ระบุว่า ข้อบกพร่องที่ตรวจสอบพบในครั้งนี้ เป็นข้อบกพร่องใหม่ และส่วนใหญ่เป็นประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกับข้อกฎหมาย ซึ่งไทยต้องใช้เวลา และมีกระบวนการดำเนินการ ซึ่งเรื่องนี้ กพท.จะต้องระบุเป็นแผนแนวทางแก้ไขข้อบกพร่องให้กับไอเคโอพิจารณา หากเหมาะสมไอเคโอก็จะให้ดำเนินการ และทยอยติดตามผล

“ปัจจุบันเราไม่มีข้อบกพร่องที่มีนัยยะสำคัญด้านความปลอดภัยแล้ว ส่วน 44 ข้อบกพร่องที่ตรวจสอบพบนี้ กพท.ก้มีเวลาในการแก้ไข ทางไอเคโอไม่ได้กำหนดกรอบไทม์ไลน์อะไร แต่เขาจะดูแผนแก้ไขของเราเหมาะสม มีแนวทางที่ถูกต้องหรือไม่ ซึ่งการตรวจสอบรอบนี้น่าจะได้คะแนนประมาณ 60%”

อย่างไรก็ดี ผลการตรวจสอบในปัจจุบัน ถือเป็นผลอย่างไม่เป็นทางการ โดยคาดว่าไอเคโอจะแจ้งผลตรวจสอบอย่างเป็นทางการให้ทราบภายในวันที่ 21 เม.ย.นี้ หลังจากนั้น หากประเทศไทยมีความเห็นต่างหรือมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติม ก็สามารถแจ้งไอเคโอได้ภายใน 30 วัน หรือภายใน 21 พ.ค.2563 หลังจากนั้นไอเคโอจะส่งผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการภายใน 21 มิ.ย.2563 และให้ไทยจัดทำแผนแก้ไขข้อบกพร่องชี้แจงกลับภายใน 21 ส.ค.2563