สลด! พบ 2 'ยีราฟขาว' สัตว์หายากของโลก ถูกฆ่าในเคนย่า
นักอนุรักษ์พบซาก "ยีราฟขาว" 2 ตัว ในพื้นที่อนุรักษ์ทางตะวันออกของ "เคนย่า" สะท้อนประชากรยีราฟทั่วโลกตกอยู่ในภาวะเสี่ยงสูญพันธุ์ และตอนนี้ยีราฟขาวเหลือเพียงตัวเดียวในโลก
แม่ และลูก "ยีราฟสีขาว" ซึ่งเป็นสัตว์หายากถูกพรานลอบสังหารเมื่อวันอังคาร (10 มีนาคม 2563) ที่ผ่านมา นักอนุรักษ์กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นถือเป็นโศกนาฏกรรมครั้งสำคัญของวงการอนุรักษ์กับสัตว์หายากที่ไม่สามารถพบที่ไหนในโลกได้
นักอนุรักษ์ พบซากของแม่ยีราฟขาว และน่องของเธอในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเขต การิสซา (Garissa) ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของเคนย่า โดยการเสียชีวิตของแม่ลูกยีราฟคู่นี้ทำให้คาดการณ์ว่า ยังมียีราฟขาวที่เหลืออยู่เพียงตัวเดียวเท่านั้น
"เราเป็นชุมชนแห่งเดียวในโลกที่ดูแลยีราฟขาวครอบครัวนี้" Mohammed Ahmednoor ผู้จัดการของเขตอนุรักษ์ชุมชน Ishaqbini Hirola กล่าวถึงเหตุสลดที่เกิดขึ้น
“การฆ่ามันเป็นการโจมตีที่ก้าวย่างอันยิ่งใหญ่ของชุมชนเพื่อการอนุรักษ์สายพันธุ์ที่หายากและไม่เหมือนใคร และยังนำไปสู่การเรียกปลุกสำนึกเพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์อย่างต่อเนื่อง” เขากล่าวเสริม
ครอบครัว "ยีราฟขาว" เกิดจากเงื่อนไขที่หายากในธรรมชาติที่เรียกว่า leucism ซึ่งทำให้เซลล์ผิวไม่มีสี แต่ร่างกายของพวกมันก็ยังคงผลิตเม็ดสีเข้มในเนื้อเยื่ออ่อนทำให้ยีราฟขาวนั้น มีดวงตาสีเข้ม
โดยข่าวของ "ยีราฟขาว" เพศเมียนั้น แพร่กระจายไปทั่วโลกหลังจากมีผู้ถ่ายภาพมันไว้ได้ในปี 2017 และได้รับความสนใจอีกครั้งเมื่อยีราฟขาวตัวนั้นคลอดลูกออกมา 2 ตัวเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2019
นอกจากนั้น Ahmednoor ยังกล่าวอีกว่า การเสียชีวิตของแม่ลูกยีราฟนั้น ถือเป็นความโศกเศร้า และการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับนักวิจัย และชุมชน ขณะเดียวกันนั้นก็ยังไม่สามารถระบุถึงแรงจูงใจของนักล่าได้อย่างชัดเจนว่าทำไปเพื่ออะไร
รายงานของ มูลนิธิสัตว์ป่าแอฟริการะบุว่า 40% ของประชากร "ยีราฟ" หายไปในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา และการลักลอบล่าเนื้อและผิวหนังที่ยังมีการลักลอบล่ามาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ขณะที่ สหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ระบุว่า จำนวนประชากรยีราฟทั่วโลกก็ลดลงจาก 155,000 ตัวในปี 1985 เหลือ 97,000 ตัวในปี 2015