อินโดฯทุ่มกว่า 2 แสนล้าน หนุนเศรษฐกิจสู้ COVID-19
รัฐบาลอินโดนีเซียประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 2.5 แสนล้านบาทในวันนี้ (13 มี.ค.) เพื่อพยุงเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่โรคโควิด-19 ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกหยุดชะงัก
นางศรีมุลยานี อินทราวาตี รัฐมนตรีกระทรวงการคลังอินโดนีเซีย แถลงว่า รัฐบาลเตรียมชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 120 ล้านล้านรูเปี๊ยะห์ หรือคิดเป็น 0.8% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) และจะทำให้ยอดขาดดุลงบประมาณปีนี้เพิ่มขึ้น 2.5% ของจีดีพี จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ 1.8%
ชุดมาตรการดังกล่าวประกอบด้วยการยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่คนงานภาคการผลิตที่มีรายได้ไม่เกิน 200 ล้านรูเปี๊ยะห์ (ราว 431,000 บาท) ต่อปี การยกเว้นภาษีนำเข้าให้แก่ภาคการผลิต 19 ภาค และลดภาษีนิติบุคคลให้บริษัทเหล่านี้ 30% การอำนวยความสะดวกให้บริษัทขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มง่ายขึ้น โดยเฉพาะบริษัทส่งออกเพื่อให้มีกระแสเงินสดมากขึ้น
มาตรการทางภาษีเหล่านี้จะกินเวลานาน 6 เดือนเริ่มตั้งแต่เดือน เม.ย. คาดว่าจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ประมาณ 22.9 ล้านล้านรูเปี๊ยะห์ (ราว 49,400 ล้านบาท)
นางอินทราวาตี กล่าวอีกว่า หลังจากนี้อาจมีมาตรการอื่น ๆ ตามมาอีกเพราะสถานการณ์ยังคงผันผวนมาก รัฐบาลจะเตรียมเครื่องมือที่มีอยู่ทั้งหมดเพื่อบรรเทาและลดผลกระทบที่มีต่อธุรกิจและประชาชนให้เหลือน้อยที่สุด
ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีคลังรายนี้ เตือนว่า เศรษฐกิจอินโดนีเซียอาจขยายตัวลดลงจาก 5.02% เมื่อปีก่อนเหลือ 4.7% ในปีนี้ หากการระบาดของโรคโควิด-19 ชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจจีนและโลก และในเดือนที่แล้ว เธอประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10.3 ล้านล้านรูเปี๊ยะห์ (ราว 22,230 ล้านบาท) เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและการท่องเที่ยว แต่บรรดานักวิเคราะห์มองว่า น้อยเกินกว่าจะเห็นผล