7 แนวทางธุรกิจ 'อยู่รอด' ยุคไวรัสระบาดหนัก

รายงานวิเคราะห์ผลกระทบจากโรคโควิด-19 และจำลองสถานการณ์ความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นต่อธุรกิจและเศรษฐกิจโลกของแมคคินซีย์ แอนด์ คัมพานี เสนอ 7 แนวทางที่จะช่วยให้ภาคธุรกิจสามารถฝ่าฟันสถานการณ์ยากลำบากในขณะนี้ไปได้

1.ปกป้องพนักงาน 

ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นความท้าทายด้านอารมณ์ของผู้คนจำนวนมาก ปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนวันต่อวัน เพราะฉะนั้นบริษัทต่างๆต้องให้ความสำคัญกับการสื่อสารที่ชัดเจน ตรงประเด็น ใช้ภาษาเข้าใจง่ายเพื่อให้พนักงานระดับผู้จัดการในแต่ละที่รับมือกับการแพร่ระบาดของโรคนี้ได้ ในลักษณะที่สอดคล้องกับข้อปฏิบัติขององค์การอนามัยโลก 

2.ตั้งทีมตอบสนองโควิด-19 ที่ทำงานอย่างเป็นระบบ 

ให้รายงานตรงต่อประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) โดยทีมงานนี้ควรเป็นพนักงานจากแผนกต่างๆ ที่พร้อมทำงานในลักษณะอุทิศทั้งแรงกายและแรงใจติดตามการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่

3.ต้องมั่นใจว่าบริษัทมีสภาพคล่องเพียงพอที่ต้านทานผลกระทบ

บริษัทต่างๆ ควรมีเงินสดสำรองหรือมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะรับมือกับสถานการณ์แพร่ระบาด กรณีการแพร่ระบาดรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และบริษัทต้องยุติสายการผลิต หรือยุติการขนส่งสินค้า

4.สร้างเสถียรภาพแก่ระบบห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าที่ผลิตออกมาสามารถกระจายออกไปให้ถึงมือลูกค้า หรือผู้บริโภคได้ในที่สุด

5.ติดต่อสื่อสารกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง 

บริษัทที่ติดตามหรือตรวจสอบปัญหาต่างๆ ในการทำธุรกิจ มักเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จมากกว่าบริษัทที่ไม่ได้ทำแบบนี้ นั่นเป็นเพราะบริษัทเหล่านี้ลงทุนในเซคเมนท์หลักคือลูกค้า และคาดการณ์พฤติกรรมของลูกค้าเป็นระยะๆ ยกตัวอย่างเช่น ในจีนที่ความต้องการลดลง ลูกค้าไม่ได้หายไปไหนเพียงแต่หันไปช้อปปิ้งทางออนไลน์มากขึ้น บริษัทที่เจอเรื่องแบบนี้ก็ควรลงทุนในออนไลน์เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามกระจายสินค้าผ่านช่องทางอื่นๆ

6.ฝึกปฏิบัติตามแผนการต่างๆที่วางไว้ 

ทีมงานไม่ว่าจะมีฝีไม้ลายมือสุดยอดแค่ไหน ก็ไม่มีความหมาย หากมีแต่ทฤษฎีแต่ไม่มีการปฏิบัติจริงตามแผนการต่างๆ ที่วางไว้

7.ดำเนินการตามเป้าประสงค์ 

 แม้เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา ก็ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนต่างๆ ตามที่กำหนดไว้เพื่อให้ภารกิจต่อสู้กับไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่บรรลุตามเป้า