เซียนมวยสุโขทัยติดเชื้อโควิด-19 ผู้เข้าข่ายมีความเสี่ยงเกือบ 100 คน
เปิดเส้นทางเซียนมวยสุโขทัยติดเชื้อโควิด-19 พบมีอาการป่วยก่อนกลับ เข้ารับการรักษาที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งพบว่าติดเชื้อ ผู้ว่าฯ สั่งติดตามกลุ่มเสี่ยงกัก 14 วัน พร้อมมาตรการเข้มเพื่อป้องกันการติดเชื้อเพิ่ม ผู้เข้าข่ายมีความเสี่ยงเกือบ 100 คน
จากกรณีเซียนมวยซึ่งเป็นนักพากษ์มวยจากเวทีราชดำเนิน กทม. เดินทางกลับบ้านที่ อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย และพบว่ามีอาการป่วย เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลรวมแพทย์สุโขทัย ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชน ระหว่างวันที่ 10-13 มีนาคม 2563 หลังจากออกจากโรงพยาบาลพบว่าอาการไม่ดีขึ้น จึงเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลกรุงเทพพิษณุโลก เมื่อซักประวัติพบว่าเข้าเกณฑ์การติดเชื้อจึงทำการส่งตัวต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก และยืนยันผลการตรวจว่า เป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น
สำหรับเส้นทางการติดเชื้อนั้นพบว่า เจ้าตัวเดินทางกลับจากชมมวยที่ กทม. เดินทางไปยังบ้านที่ อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา แวะปั๊มน้ำมันระหว่างทางไป 2 ครั้ง และระหว่างเดินทางมีอาการหนาวสั่นคล้ายเป็นไข้ จึงแวะเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลรวมแพทย์สุโขทัย ซึ่งต่อมามีรายงานการสอบสวนโรคออกมาว่า ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเมื่อแรกเข้านั้นมีอาการไข้สูงหนาวสั่น แรกรับวัดอุณหภูมิไข้ได้ 39.1 องศาเซลเซียสมึนศรีษะ ไอ เจ็บคอ ทอมซิลโตแดง
โดยรับแจ้งว่า มีอาการตั้งแต่อยู่ กทม. ขับรถกลับมายัง จ.สุโขทัย ด้วยรถส่วนตัวพร้อมผู้โดยสารจำนวน 5 คน พร้อมให้ประวัติอีกด้วยว่า เป็นนักพากษ์มวยเวทีมวยราชดำเนิน ได้สัมผัสกับบุคคลที่ได้รับการวินิจฉัยว่า เป็นไวรัสโควิด-19 โดยยืนไหล่พิงกัน 2-3 นาที หลังจากนั้นยังอยู่ในสนามมวยเดียวกันอีก 8 ชั่วโมง จนทำให้ติดเชื้อดังกล่าว โดยจากความเสี่ยงการติดเชื้อพบว่าบุคลากรทางการแพทย์พร้อมผู้ใกล้ชิดมีความเสี่ยงถึง 37 คน ระหว่างพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลรวมแพทย์สุโขทัย พบมีญาติมาเยี่ยม อีก 13 คน รวมทั้งผู้ร่วมเดินทาง 5 คนอีกด้วย
นอกจากนั้น ผู้ใกล้ชิดในบ้านพักผู้ป่วยมีความเสี่ยงกันเพิ่มเติมอีกมากมาย ซึ่งทางจังหวัดสุโขทัยและสาธารณสุขสุโขทัยได้ลงพื้นที่ติดตามสอบสวนโรคพร้อมกักกันผู้มีความเสี่ยงตามเกณฑ์ 14 วันแล้วอย่างเข้มข้นโดยรวมแล้วอาจมีผู้เข้าข่ายมีความเสี่ยงเกือบ 100 คน
ล่าสุด นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ได้สั่งปิดโรงพยาบาลรวมแพทย์สุโขทัย เพื่อทำการฆ่าเชื้อ และคัดกรองบุคลากรทางการแพทย์ที่สัมผัสกับคนไข้ และสอบสวนโรคแล้วตามเกณฑ์กันทุกคน
นายไมตรี กล่าวว่า มั่นใจว่าจะผ่านสถานการณ์นี้ไปได้ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน สั่งการให้ปิดทางเข้าออกของหมู่บ้านที่มีผู้เสี่ยงให้เข้าออกทางเดียว ยกเลิกการประชุม สัมมนา ที่มีคนมากกว่า 100 คน ยกเลิกถนนคนเดิน งานมหรสพทุกอย่าง อีกทั้งให้ตรวจสถานบริการให้มีความพร้อมเช่นการวัดอุณภูมิ การบริการเจลล้างมือและย้ำการรักษาระยะสังคม (Social Distance)ในสถานการณ์ที่โรคยังระบาดหนักอยู่ สิ่งที่ทำแล้วได้ผลในการลดการแพร่ระบาดของไวรัสคือ การไม่ให้มีคนมาอยู่รวมกันจำนวนมาก และPersonal Distanceหรือ‘ระยะห่างระหว่างบุคคล’เป็นหลักจิตวิทยาที่ถูกนำมาใช้เป็นมาตรการทางสาธารณสุข มีความสำคัญมากในการลดการแพร่ระบาดของโรคระบาดในปัจจุบัน