ตม.สุวรรณภูมิ จ่อเพิ่มสแกนหน้าผาก หวังสร้างความมั่นใจป้องกันโควิด-19
รอง ผบก.ตม.2 ชี้แจงยิบขั้นตอนการคัดกรองตั้งแต่ประเทศต้นทาง จนถึงด่านตรวจสุวรรณภูมิ ระบุเตรียมเสนอ "สแกนหน้าผาก" เพิ่มเติม ควบคู่กับการใช้เทอร์โมสแกน เพื่อสร้างความมั่นใจ
ตามที่ปรากฏข่าวตามสื่อโซเชียล กรณีผู้โพสเฟสบุคอ้างว่า เดินทางจากประเทศสเปน และผ่านการคัดกรองทั้งจากสนามบินต้นทาง และแวะผ่านที่อาบูดาบี เมื่อมาถึงไทยกลับไม่มีการตรวจอะไร และกรณี ผู้โพสเฟสบุคอีกรายอ้างว่า เดินทางกลับจากญี่ปุ่น มาถึง ตม.ให้กรอกแบบฟอร์ม ตนกรอกว่ามาจากญี่ปุ่น แต่ จนท.ไม่ได้คัดกรองอะไรเป็นพิเศษ และยังพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการกรอก App โดยย้ำว่า ไม่มีการตรวจอุณหภูมิใดๆ
พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รอง ผบก.ตม.2 ในฐานะรองโฆษก สตม. ได้ชี้แจงว่า กระบวนการคัดกรองในการเดินทางเข้าประเทศทางอากาศ มีการบูรณาการร่วมกันทุกหน่วยงาน ตั้งแต่การคัดกรองก่อนมา ก่อนเข้า และควบคุมการพำนัก ในกระบวนการก่อนมา สายการบินภายใต้ประกาศกรมการบินพลเรือน จะต้องทำหน้าที่คัดกรองโดย ผู้โดยสารจะต้องสำแดงใบรับรองแพทย์ก่อนขึ้นเครื่อง พร้อมผ่านการทำ Exit scanning ทุกราย ตรงตามที่ผู้โพสเฟสบุคที่เดินทางจากสเปนได้กล่าวไว้
ทั้งนี้ เมื่อมาถึงสนามบินประเทศไทย เป็นการคัดกรองก่อนเข้า ผู้โดยสารจะเดินผ่านจุด Termoscan ซึ่งจะมี จนท.กรมควบคุมโรค นั่งประจำ หากมีอุณภูมิร่างกายเกิน 36.5จะมีสัญญาณเตือน ทาง จนท.ควบคุมโรค จะเชิญตรวจสอบโดยละเอียด หากเป็นไข้จะถูกควบคุมเข้าสู่กระบวนการสอบสวนอาการทางการแพทย์ หรือ PUI ทันที หากใครไม่มีอุณหภูมิสูง ก็ผ่านได้ตามปกติ ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ได้ตั้งอุปกรณ์ตรวจจับอุณหภูมิที่จุดก่อนเดินเข้าโถง ตม.ด้วยอีกจุดหนึ่ง ซึ่งผู้โพสเฟสบุคทั้งรายที่มาจากสเปน และ ญี่ปุ่น ได้ผ่านเครื่อง termoscan แล้ว และไม่พบว่ามีอุณหภูมิสูง จึงสามารถเดินทางเข้าประเทศได้ ผู้โดยสารอื่นๆก็เช่นกัน ซึ่งทาง ผกก.ฝ่าย ตม.ขาเข้าฯ ได้โทรถามตรงถึงผู้โพส ก็ยอมรับว่า ได้เดินผ่าน Termoscan แล้วจริง แต่อยากให้มีขั้นตอนมากกว่านี้ เพื่อสร้างความมั่นใจ!!
ส่วนกรณีการกรอกแบบฟอร์ม ที่อ้างถึงนั้น คือการกรอกรายละเอียดตามแบบ ต.8 ของกรมควบคุมโรค ซึ่งที่ผ่านมา ตม.ได้จัด จนท.ช่วยเหลือกรมควบคุมโรค แนะนำให้ผู้โดยสาร ที่ไม่ได้ Download App ให้กรอกข้อมูล เพื่อรวบรวมส่งให้ กรมควบคุมโรค ติดตามตรวจสอบที่ที่พักภายหลังต่อไป
อย่างไรก็ตาม ภายหลังปรากฏข่าว ทาง บก.ตม.2 ได้ตรวจสอบแล้ว ได้รับการยืนยันจาก จนท.ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศว่า มี จนท.ประจำที่จุดตรวจวัดอุณหภูมิตลอด 24 ชม. ทั้งนี้ ได้เสนอแนวคิด ให้ทาง จนท.ควบคุมโรค เพิ่มขั้นตอนการตรวจ โดยใช้อุปกรณ์ตรวจแบบส่องที่ศรีษะรายคนโดยละเอียด ซึ่งอาจเกิดการติดขัดสะสมของผู้โดยสาร แต่อาจเพิ่มความมั่นใจแก่ผู้โดยสารและสาธารณะชนได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ทราบว่า ทางการท่าอากาศยาน และ กรมควบคุมโรค จะได้แถลงชี้แจงทำความเข้าใจในประเด็นดังกล่าวต่อไป