ผวาติดโควิด-19 'ศุภชัย-ขรก.รัฐสภา' กักตัวเอง หลังคลุกคลีกลุ่มเสี่ยง

เมื่อวันที่ 19 มี.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ศุภชัย โพธิ์สุ ครูแก้ว   ระบุว่า “ผมไม่ได้ติดเชื้อไข้หวัด แต่เพื่อความไม่ประมาท และเพื่อความปลอดภัยของญาติพี่น้อง จึงงดไปร่วมกิจกรรมหรือร่วมงานกับประชาชนชั่วคราว และขอขอกักตัวเองในพื้นที่ส่วนตัวเป็นเวลา 14 วัน”  

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่านอกจากนายศุภชัย แล้วยังพบรายงานของสำนักบริการทางการแพทย์ประจำรัฐสภา  ระบุว่าพบข้าราชการของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ และสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสโควิด-19  แบ่งเป็นกลุ่มแรก กลุ่มข้าราชการสำนักงานเลขาธิการสภาฯ จำนวน 11 คน และข้าราชการสำนักงานเลขาธิการการวุฒิสภาจำนวน 14 คน รวม 25 คน ซึ่งเข้าอบรมหลักสูตรนักกฎหมายภาครัฐ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งการอบรมดังกล่าวพบว่ามีเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานหน้าของของนายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเข้าไปใกล้ชิดกับบุคคลที่พบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19  เข้าอบรมในช่วงดังกล่าวได้  จึงขอให้พิจารณากักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ทั้งนี้นายสรศักดิ์ อนุมัติการกักตัวดังกล่าว เช่นเดียวกันนายนัฑ ผาสุก เลขาธิการวุฒิสภาสั่งการและอนุมัติให้ปฏิบัติตนตามแนวทางของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ 

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าสำหรับข้าราชการที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ได้เข้ารับการตรวจคัดกรอง และประเมินความเสี่ยง ที่สำนักบริการการแพทย์ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 มีนาคม พร้อมรับคำแนะนำในการปฏิบัติตนเอง เช่น  ให้ใช้การลงลายมื่อชื่อแทนสแกนลายนิ้วมือผ่านเครื่องอิเล็กทรอนิกส์เพื่อยืนยันการเข้าและออกงาน  , ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา  อย่างไรก็ตามจนถึงวันที่ 19 มีนาคม ไม่มีผลยืนยันว่าข้าราชการของรัฐสภาติดเชื้อไวรัสโควิด-19 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากกลุ่มเสี่ยงจากการอบรมหลักสูตรกฎหมายแล้ว ยังพบข้าราชการของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เป็นบรรณารักษ์ประจำห้องสมุด ตั้งอยู่สำนักงานเลขาธิการสภาฯ อาคารกษาปณ์ ถนนประดิพัทธ์  เป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากบิดาซึ่งทำงานในสนามมวย ย่านนนทบุรี พบเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และรักษาตัวที่สถาบันบำราศนราดูร ทั้งนี้ข้าราชการคนดังกล่าว ได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้วที่สาธารณสุขนนทบุรี แต่ผลไม่พบการติดเชื้อ แต่ทางสำนักการแพทย์จึงสั่งให้กักตัวเพื่อความปลอดภัย 

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่สร้างความเห็นห่วงกรณีข้าราชการบรรณารักษ์ นั้นพบว่ามีการติดต่อให้บริการ ยืม-คืน หนังสือ และทำงานใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานอีกหลายคนด้วย ดังนั้นทางสภาฯ อาจพิจารณาเพิ่มเติมในมาตรการคัดกรองอย่างเข้มงวดต่อไป