ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ สั่งปิดพื้นที่เสี่ยง 22 มี.ค.-12 เม.ย. รวม 22 วัน ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19
ด้วยสถานการณ์ของโรคไวรัส โควิด 19 อันเป็นโรคติดต่ออันตรายตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขเรื่อง โรคติดต่ออันตราย ฉบับที่ 3 พ.ศ.2563 พบการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง จังหวัดสมุทรปราการ เป็นจังหวัดปริมณฑลที่มีภูมิศาสตร์สำคัญทางเศรษฐกิจ การคมนาคม การท่องเที่ยว และมีความหนาแน่นของประชากรสูงถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะมีการแพร่ระบาดของโรคอย่างรวดเร็ว การควบคุมโรคอย่างทันเวลาและจำกัดการชุมนุมของประชาชนเพื่อไม่ให้การแพร่ระบาดขยายเป็นวงกว้างจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรคในสถานที่ต่าง ๆ ที่มีความเสี่ยงสูง
คำสั่งดังกล่าวของ นายชาติชาย อุทัยพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรปราการ ได้มติให้ปิดชั่วคราว ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ร้านขายปลีกขนาดใหญ่ หรือห้างร้านที่มีร้านค้าย่อยในอาคารหรือบริเวณเดียวกัน เว้นแต่ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายยาหรือสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ร้านอาหาร ให้เปิดเฉพาะการจำหน่ายอาหารเพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่นร้านอาหารในโรงแรมให้บริการเฉพาะผู้ที่พักอาศัยในโรงแรมเท่านั้น ปิดชั่วคราว ตลาด ตลาดนัด เปิดเฉพาะการจำหน่ายอาหารสด อาหารแห้ง อาหารปรุงสำเร็จ เพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น อาหารสัตว์ ร้านขายยา และสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต
ร้านเสริมสวยแต่งผมหรือตัดผม สถานที่บริการสักผิวหนังหรือเจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย สถานที่เล่นสเกต หรือโรลเลอร์เบลด หรือการเล่นอื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน สวนสนุก สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง หรือตู้เกมส์ ร้านเกม และร่านอินเตอร์เน็ต สนามกอล์ฟ หรือสนามฝึกกอล์ฟ สระว่ายน้ำ สวนน้ำ สนามไก่ชน ศูนย์พระเครื่อง และสนามพระ ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม และสถานที่จัดนิทรรศการ สถานศึกษาทุกระดับ ทุกประเภท สถาที่กวดวิชา และสถานรับเลี้ยงเด็ก ร้านสปา ร้านนวดเพื่อสุขภาพ ทั้งแผนไทยและแผนโบราณ ร่วมทั้งสถานที่ให้บริการสปา อาบน้ำ ตัดขน รับเลี้ยง หรือรับฝากสัตว์ สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนส สนามมวย ค่ายมวย สนามกีฬา ร้านคาราโอเกะ ทุกประเภท โต๊ะสนุกเกอร์ บ่อตกปลา บ่อตกกุ้ง หรือกิจกรรมใดในประเภทเดียวกันให้ปิดให้บริการ ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2563 ไปจนถึงวันที่ 12 เมษายน 2563 หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป