สถานการณ์ฝุ่นควันภาคเหนือ ยังผกผันต่อเนื่อง แม้ค่าฝุ่น PM 2.5 จะดีขึ้น

สถานการณ์ฝุ่นควันภาคเหนือ ยังผกผันต่อเนื่อง แม้ค่าฝุ่น PM 2.5 จะดีขึ้น

ศูนย์อำนวยการฯ ป้องกันไฟป่าฯ เรียกประชุมนัดแรก เน้นทำงานกับประชาชนในพื้นที่

ทั้งนี้ ค่าดัชนีอากาศและค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ซึ่งพุ่งขึ้นสูงกว่า 300 มคก./ลบ.ม ซึ่งเกินกว่าค่าวิกฤติที่ 100 มคก./ลบ.ม. โดยเฉพาะในเขตจังหวัดเชียงรายจะลดระดับลงในระหว่างอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ค่าฝุ่นฯ ดังกล่าว ยังขยับขึ้นสูงอีกครั้งเมื่อวันเสาร์ ก่อนที่จะลดระดับลงมาที่ร้อยกว่าไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรในวันอาทิตย์และวันนี้

โดยในวันนี้ กรมควบคุมมลพิษวัดค่าฝุ่นในพื้นที่ได้ในระหว่าง 37-136 มคก./ลบ.. (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ..) โดยค่าฝุ่นฯ สูงสุดยังอยู่ที่เชียงราย

นอกจากเชียงรายแล้ว ยังมีอีก 18 พื้นที่ที่ค่าฝุ่นเกินค่ามาตรฐานและมีผลและเริ่มมีผลต่อสุขภาพ (สีแดงและสีส้ม)

เนื่องจากปัญหาไฟป่าและฝุ่นควันที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันแห่งชาติ (ศอ.ปกป.ชาติ) ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ว่าฯ ผ่านระบบ Video Teleconference (VTC) เพื่อติดตามสถานการณ์ในวันศุกร์ที่ผ่านมา

158495069787

นายวราวุธ ได้ขอให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญกับการสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน เพราะหากประชาชนไม่ร่วมมือก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเด็ดขาดและยั่งยืน โดยเฉพาะการทำความเข้าใจถึงผลกระทบจากการเผา ที่จะก่อให้เกิดปัญหามลพิษทางอากาศ กระทบสิ่งแวดล้อม และยังทำลายป่าต้นน้ำ 

หากไม่มีป่า ก็จะส่งผลไปถึงเรื่องภัยแล้งด้วย นายวราวุธกล่าว

สำหรับมาตรการรับมือสถานการณ์ นายวราวุธได้ขอให้ทุกจังหวัดและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวด กวดขันในการควบคุมไม่ให้มีการเผาในพื้นที่ และให้บังคับใช้กฎหมายกับผู้กลอบเผาอย่างเด็ดขาดตลอดในช่วงห้ามเผาที่จังหวัดกำหนด 

หากพ้นช่วงห้ามเผา ขอให้จัดระเบียบการเผาเพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นละอองเพิ่มสูงขึ้น 

สำหรับปัญหาหมอกควันข้ามแดน นายวราวุธเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้มีสารไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อขอความร่วมมือควบคุมการเผา โดย ทส. ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับสำนักงานเลขาธิการอาเซียน และประเทศในอนุภูมิภาคแม่โขงอย่างต่อเนื่องเพื่อเร่งแก้ไขสถานการณ์ร่วมกันอีกทางหนึ่ง

 ทั้งนี้ จากการตรวจสอบทางสถิติของกรุงเทพธุรกิจ พบว่า สถานการณ์ฝุ่นควันในภาคเหนือมีความรุนแรงกว่าปีที่ผ่านๆมา โดยพบค่าฝุ่นฯ ขยับขึ้นสูงกว่าค่าวิกฤติถึง3-4เท่า 

สาเหตุสำคัญ ยังคงเป็นเรื่องการเผาในพื้นที่โดยเฉพาะพื้นที่ป่า และหมอกควันข้ามพรมแดน แม้จะยังระบุได้ไม่ชัดเจนว่าสาเหตุใดที่เป็นสาเหตุหลักของฝุ่นควันภาคเหนือในปีนี้

ในปีที่ผ่านๆมา เมื่อตรวจสอบจุดความร้อนสะสมเปรียบเทียบระหว่างในพื้นที่กับประเทศเพื่อนบ้าน พบว่า จุดความร้อนสะสมในประเทศเพื่อนบ้านมีค่าสูงกว่าในพื้นที่ตั้งแต่หนึ่งถึงสี่เท่า

ผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษทางอากาศได้ตั้งข้อสังเกตว่าการแก้ปัญหาของรัฐบาลยังไม่เป็นไปตามแผนขับเคลื่อนการแก้ปัญหาฝุ่นฯ แห่งชาติ เพราะเมื่อค่าฝุ่นขึ้นสํงเกินกว่า 100 มคก./ลบ.ม. อย่างต่อเนื่อง ต้องมีการเรียกประชุมของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเพื่อเสนอนายกฯและคณะรัฐมนตรีพิจารณา

ภาพ/ เจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าดับไปป่าที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่วันหยุดที่ผ่านมา/ เฟสบุ๊คเพจ คุยกับอธิบดีกรมป่าไม้