อุปทูตจีน อวยพรคนไทย ผ่านพ้นเวลายากลำบาก หลังส่งมอบเวชภัณฑ์ให้

กระทรวงสาธารณสุข -24 มี.ค.63 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รับมอบเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ไม่ใช่ยาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จากนายหยางซิน อุปฑูตรักษาการแทนเอกอัครราชฑูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โดยอุปกรณ์ที่รับมอบถูกส่งมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ ประกอบด้วย หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ แบบ N 95 10,000 ชิ้น ,หน้ากากอนามัยแบบธรรมดา จำนวน 100,000 ชิ้น ชุดตรวจไวรัส Novel Coronavirus (2019-nCoV)Nucleic Acid Diagnostic Kit (PCR-Fluorescence Probing) จำนวน 834 ชุด ,ชุดป้องกันโรคหรือ PPE 2,000 ชุด

นาย หยาง ซิน กล่าวว่า อุปกรณ์ล็อตแรกเป็นการรับบริจาคมาจากรัฐบาลจีน หลังจากนี้ยังจะมีการจัดซื้อแบบรัฐต่อรัฐ และจะประสานบริษัทที่มาลงทุนในไทย ให้ร่วมกันบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ พร้อมย้ำว่าที่ผ่านมารัฐบาลและคนจีนซาบซึ้งในน้ำใจของคนไทยที่ช่วยเหลือ และดูแลนักท่องเที่ยวจีนที่มาเที่ยวไทยและเจ็บป่วย และนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินี มีพระราชสาสน์ แสดงความห่วงใยและพระราชทานเวชภัณฑ์ให้กับจีน ขอให้ไทยเอาชนะกับสงครามโควิดโดยเร็ว ขอให้ไทยผ่านพ้นช่วงเวลายากลำบาก ประเทศไทยสู้ๆ คนไทยสู้ๆ

นายอนุทิน กล่าวว่า เวชภัณฑ์เหมือนเป็นตัวแทนมิตรภาพของ 2 ประเทศ เพราะเวชภัณฑ์ยา จะเป็นอาวุธที่ใช้ในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 ทุกครั้งที่ประสานจีนขอความช่วยเหลือ ไม่เคยได้รับการปฏิเสธ หรือรับปากแบบส่งๆ นอกจากนี้ในวันที่ 25 มี.ค.นายแจ๊ค หม่า มูลนิธิอะลีบาบา จะบริจาคหน้ากากอนามัยให้กับประเทศไทย มั่นใจว่าจากนี้จะสามารถกระจายเวชภัณฑ์ต่างๆได้ครบถ้วน โดยมอบให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) และกรมการแพทย์ กรมควมคุมโรค เป็นผู้กระจายเวชภัณฑ์ไปยังรพ.ของรัฐและเอกชน. พร้อมย้ำว่า social distancing หรือการเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด หยุดอยู่กับบ้านกักโรคเพื่อช่วยลดโรค ยกเว้นผู้ที่มีหน้าที่ต้องปฏิบัติเช่น ข้าราชการ บุคลากรทางการแพทย์ และคณะรัฐมนตรี ที่ยังต้องปฏิบัติงานไปตามปกติ

นายอนุทิน กล่าวถึงกรณี พบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นและถูกชุมชนตั้งแง่รังเกียจไม่ให้นำศพมาฌาปนกิจ ว่า เป็นไปตามข้อมูลว่า ผู้เสียชีวิตจากโควิด -19 จะเป็นคนสูงอายุ มีโรคแทรกซ้อน แต่ขอให้มั่นใจว่า เชื้อโรคในร่างกายผู้เสียชีวิตไม่ได้แพร่ออกมา ยืนยันทางการแพทย์ไม่มีทางปล่อยให้เชื้อแพร่ออกสู่ภายนอก ทั้งนี้ให้หากผู้เสียชีวิตมีภูมิลำเนาที่ใด ผู้ว่าราชการจังหวัด และสาธารณสุขจังหวัด จะจัดการให้มีการบำเพ็ญกุศลทางศาสนาได้อย่างปลอดภัย พร้อมทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่ ตนขอให้คนไทยเห็นใจญาติผู้เสียชีวิต อย่ามโน ในยามวิกฤตเราควรแสดงน้ำใจซึ่งกันและกัน ส่วนรายละเอียดขอให้ฟังจากการแถลงข่าวของศูนย์โควิดชาติ ซึ่งจะยกระดับเป็นศูนย์ระดับชาติในการให้ข้อมูลจากทุกหน่วยงานให้ข้อมูลจุดเดียว ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้ข้อมูลทิศทางเดียวกัน.ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

“วันนี้ไม่มีใครไม่รู้จักโรคโควิด-19 ไม่มีใครไม่รู้ว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของสธ.อย่างเคร่งครัด เรามีทีมแพทย์ที่ดีที่สุด เก่งที่สุด สิ่งที่ต้องการคือความร่วมมือจากคนไทยทั้งชาติ เว้นระยะห่างทางสังคม งดกิจกรรมทุกอย่าง อยู่บ้านกักโรค ซึ่งดีกว่าวัคซีนและยารักษา ส่วนอัตราการเสียชีวิตที่เพิ่มมากขึ้นแต่ยังอยู่ในเกณฑ์ 5-10% ของผู้ติดเชื้อ”นายอนุทินกล่าว