พาณิชย์ตั้งวอร์รูม 7 กลุ่มสินค้า ดูแลสินค้า ช่วงโควิด-19
“จุรินทร์”นั่งหัวโต๊ะประชุม กรอ.พาณิชย์ รับมือโควิด-19 ตั้งวอร์รูม 7 กลุ่มสินค้า ประเมินสถานการณ์ กระจายสินค้า ด้านเอกชนให้ความมั่นใจสินค้าไม่ขาดแคลน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุม คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) ว่า วันนี้ได้เชิญประชุม กรอ.พาณิชย์ ซึ่งประกอบด้วยข้าราชการระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ และผู้แทนจากภาคเอกชนประกอบด้วยสภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือ และสมาคมอื่นๆ เช่นสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย สมาคมผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย สมาคมผู้ผลิตและแปรรูปสุกรเพื่อการส่งออก บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหารจำกัด (มหาชน) สมาพันธ์โลจิสติกส์ไทย สมาคมขนส่งโลจิสติกส์ไทย สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย สมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ ซึ่งวันนี้ได้มีการหารือเรื่องสถานการณ์สินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆในสถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญกับโควิด-19 ว่าจะประเมินสถานการณ์ร่วมกันว่าอย่างไร และประเด็นสำคัญที่สุดก็คือภาครัฐโดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงพาณิชย์จะสามารถเข้าไป ในการช่วยเหลือแก้ปัญหาอุปสรรคต่างๆหรือสนับสนุนอย่างไร ทั้งในส่วนของสมาคมที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะให้ประชาชนทั่วทั้งประเทศได้รับสินค้าที่มีคุณภาพและบริการที่พูดถึงที่สุดเท่าที่จะทำได้
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติตั้งวอร์รูม 7 กลุ่มสินค้า และบริการสำคัญ เพื่อให้ทางกระทรวงพาณิชย์และเอกชนที่เกี่ยวข้องได้ทำงานเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันในการประเมินสถานการณ์ร่วมกันว่าในภาคส่วนของ การผลิต การแปรรูปตลาด รวมทั้งการกระจายสินค้าและบริการในรูปแบบใหม่ เช่น Delivery หรือ ออนไลน์ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อสนองต่อความต้องการของประชาชนในประเทศขณะนี้ รวมทั้งสถานการณ์ส่งออกและประเมินว่ามีสินค้าใดหรือไม่
สำหรับวอร์รูม 7 กลุ่มสินค้าประกอบด้วย 1.อาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน ประกอบด้วย บะหมี่สำเร็จรูป น้ำดื่ม น้ำผลไม้ เครื่องดื่มเป็นต้น 2.กลุ่มข้าว 3.กลุ่มปศุสัตว์ ประกอบด้วยไก่ ไข่ หมู กุ้งและสินค้าอื่นเป็นต้น 4.ผลไม้ซึ่งกำลังจะออกมามากในช่วงต้นเดือนหน้าที่จะถึงนี้แล้ว 5.วัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารสัตว์ ซึ่งจะเป็นต้นทางของการผลิตไก่ หมู กุ้ง สินค้าบริโภคต่อไป ซึ่งสินค้าในกลุ่มนี้ประกอบด้วยมันสำปะหลัง ข้าวโพด ถั่วเหลืองเป็นต้น 6.เวชภัณฑ์ต่างๆ รวมทั้งเจลแอลกอฮอล์และหน้ากากอนามัย7.บริการโดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งและโลจิสติกส์ต่างๆและการให้บริการ delivery ส่งอาหารไปถึงบ้านเป็นต้น
“ปัญหาเท่าที่เห็นร่วมกันของทุกกลุ่มคือเรื่องของการขนส่งไม่ว่าจะเป็นการขนส่งเข้าสู่โรงงาน หรือขนส่งจากโรงงานไปยังศูนย์กระจายสินค้าจนกระทั่งถึงมือผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นปัญหารวมที่ต้องการให้การลำเลียงสินค้าต่างๆเป็นไปด้วยความสะดวก ซึ่งจะต้องขอให้ทางกระทรวงคมนาคมช่วยผ่อนคลายกฎระเบียบบางอย่างเพื่อให้สามารถทำได้สะดวกและคล่องตัวขึ้น ทั้งในเรื่องของกฎระเบียบอื่นๆ เรื่องเงื่อนเวลาที่จะส่งสินค้าอุปโภคบริโภคจากศูนย์กระจายสินค้าหรือยังมือผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว”นายจุรินทร์ กล่าว