‘ธปท.-แบงก์’งัดแผนรับภาวะฉุกเฉิน

วานนี้ (25 มี.ค.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ  ออกแถลงการณ์ร่วมว่า ธนาคารและสถาบันการเงินทุกแห่งมีความพร้อมในการดำเนินการรองรับภาวะฉุกเฉิน เพื่อความต่อเนื่องทางธุรกิจ (BCP)เพื่อให้สามารถใช้บริการทางการเงินที่สำคัญ อาทิ การรับฝากเงิน การถอนเงิน การโอนเงิน การชำระเงิน และบริการสินเชื่อต่างๆ โดยจะเปิดช่องทางบริการให้มากที่สุด รวมถึงช่องทางอิเล็กทรอนิกส์  และมีCall Center ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

 นายสมบูรณ์ จิตเป็นธม ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายออกบัตรธนาคาร ธปท. เปิดเผยว่า  ในช่วงที่ไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ หรือโควิด -19 (COVID-19) ระบาดเป็นวงกว้าง ธปท.ได้มีการวางแผนการบริหารจัดการธนบัตรเพื่อลดความเสี่ยงแล้ว  โดยเมื่อต้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาได้ประสานงานธนาคารพาณิชย์ แจ้งให้ทราบว่าธนบัตรที่ผ่านการใช้งาน ซึ่งรับฝากมาจากธนาคารพาณิชย์ ธปท.จะดำเนินการแยกเก็บไว้เป็นเวลา 14 วัน เพื่อช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคจากคนไปสู่คน ก่อนจะให้ธนาคารพาณิชย์มาเบิกใช้ เพื่อนำไปหมุนเวียนออกสู่มือประชาชน ส่วนธนบัตรสภาพเก่าจะเข้าสู่กระบวนการทำลายและจะถูกทดแทนด้วยธนบัตรสภาพใหม่เข้าสู่ระบบ

ส่วนกรณีที่เกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ทำให้สถานที่หลายแห่งถูกปิดดำเนินการชั่วคราวนั้น ธปท.มีการหารือและประสานงานกับธนาคาพาณิชย์ และศูนย์เงินสดของธนาคารพาณิชย์อย่างใกล้ชิดในปัจจุบัน เพื่อที่จะดูแลให้ประชาชนยังคงมีธนบัตรใช้ แม้จะอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน หากธนาคารบางแห่งต้องปิดสาขาลง ก็ยังคงมีช่องทางตู้ ATM ที่ประชาชนยังสามารถไปกดถอนเงินได้

โดยเบื้องต้น ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งได้เตรียมความพร้อมปฏิบัติตามแผนฉุกเฉินของตัวเอง เช่น การสำรองเงินสดไว้ที่ศูนย์เงินสด สาขา  ตู้ ATM การสำรองรถขนส่งเงินสด และหากไม่สามารถใช้บริการรถขนส่งเงินสดของตัวเองได้ ก็จะมีการจับคู่กันเป็นพันธมิตรหรือรวมตัวกัน เพื่อการกระจายเงินสดไปยังสาขา และแบ่งพื้นที่ในการดูแลตู้ ATM โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการใช้บริการจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้  ธปท.ได้มีการนำธนบัตรฉบับใหม่ ฉบับละ 500 บาท ที่ยังไม่เคยผ่านการหมุนเวียน ออกมากระจายเพื่่อใช้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจแล้ว เพื่อลดความเสี่ยงจากโรคโควิด-19 และช่วงนี้ ธปท. จะมีการเพิ่มการกระจายธนบัตรใหม่เข้าสู่ระบบมากขึ้น  หากมีธนบัตรเก่าหรือชำรุด สามารถนำไปธนาคารแลกเป็นธนบัตรใหม่ หรือฝากเข้าบัญชีได้ และธนบัตรเหล่านี้จะถูกนำกลับเข้ามาทำลายมากขึ้น ช่วยลดปริมาณธนบัตรเก่าที่หมุนเวียนในท้องตลาดเช่นกัน

ทั้งนี้ ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 ธปท.อยากให้ประชาชน หันมาชำระค่าสินค้าและบริการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ดิจิทัลเพย์เม้นท์มากขึ้น  ซึ่งจะสามารถป้องกันและลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ที่อาจปนเปื้อนผ่านมาทางธนบัตรได้ด้วย เช่นเดียวกัน พื้นผิววัสดุอื่น ๆ ตามที่สาธารณะทั่ว ๆ ไป เช่น ราวบันไดเลื่อน ปุ่มลิฟท์ มือจับในรถโดยสารของระบบขนส่งมวลขนจต่างๆ เป็นต้น