บัญชีกลางอนุมัติงบทดรอง50ล้านทุุกจังหวัดรับมือโควิด-19
บัญชีกลางอนุมัติขยายวงเงินทดรองราชการฯในเชิงป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน กรณีโรคระบาดโควิด-19 ในพื้นที่กทม.และ 76 จังหวัดละ จำนวน 50 ล้านบาท
นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) แพร่ระบาด และกระจายไปทั่วภูมิภาคของโลก โดยองค์การอนามัยโลกได้ประกาศให้การระบาดเป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ และกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้เป็นโรคติดต่ออันตราย ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ซึ่งปัจจุบัน ประเทศไทยมีผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อชีวิต ร่างกายของประชาชนเป็นอย่างมาก และแนวโน้มของสถานการณ์อาจส่งผลกระทบต่อวงเงินทดรองราชการในเชิงป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินที่มีอยู่ อาจไม่เพียงพอต่อการป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินให้แก่ประชาชนได้ เนื่องจากระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 ไม่ได้กำหนดให้สามารถขยายวงเงินทดรองราชการดังกล่าวได้
ดังนั้น เพื่อให้สามารถใช้จ่ายเงินงบประมาณในการป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ที่อาจเกิดขึ้นแก่ประชาชนจากการระบาดของโรคระบาดดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล กรมบัญชีกลาง จึงได้อนุมัติให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและจังหวัด ปฏิบัตินอกเหนือระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 ข้อ 18 กรณีขยายวงเงินทดรองราชการในเชิงป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน จำนวน 50 ล้านบาท ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและพื้นที่จังหวัด ทั้ง 76 จังหวัด เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินเฉพาะสถานการณ์ในครั้งนี้ได้ เป็นกรณีพิเศษ
“การอนุมัติให้ขยายวงเงินทดรองราชการดังกล่าว เพื่อให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณในช่วงที่ประเทศเกิดวิกฤติจากการระบาดของโรคดังกล่าว เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ
ทั้งนี้ ได้กำหนดให้ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเฝ้าระวังและควบคุมติดตามการระบาดของโรค ประเมินสถานการณ์ ระดับความรุนแรงของภัยพิบัติ วิเคราะห์สถานการณ์ ความเป็นไปได้และพฤติการณ์ปัจจัยบ่งชี้ต่างๆ ว่า มีความจำเป็นต้องป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน รวมทั้งเสนอมาตรการและแนวทางในการป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติดังกล่าวต่ออธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพื่ออนุมัติจ่ายเงินทดรองราชการ สำหรับพื้นที่จังหวัด ทั้ง 76 จังหวัด ให้คณะกรรมการป้องกันหรือยังยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินจังหวัดดำเนินการประเมินสถานการณ์ ระดับความรุนแรง วิเคราะห์สถานการณ์ความเป็นไปได้ พฤติการณ์ ปัจจัยบ่งชี้ต่าง ๆ ว่ามีความจำเป็นต้องป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดรวมทั้งเสนอมาตรการและแนวทางในการป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติดังกล่าวต่อผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่ออนุมัติจ่ายเงินทดรองราชการต่อไป” อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าว