พาณิชย์ขึ้นทะเบียน 'ผ้าหม้อห้อมแพร่' และ 'กล้วยหอมทองปทุม' เป็นสินค้าจีไอ
“พาณิชย์” ประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ อีก 2 รายการ “ผ้าหม้อห้อมแพร่-กล้วยหอมทองปทุม” มั่นใจช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าของชุมชน และเพิ่มรายได้ให้ท้องถิ่น
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ประกาศขึ้นทะเบียนสินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือสินค้าจีไอ( GI ) 2 รายการ ได้แก่ ผ้าหม้อห้อมแพร่ และกล้วยหอมทองปทุม ทำให้ปัจจุบันประเทศไทยมีสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าจีไอ แล้ว 120 รายการ จาก 76 จังหวัด
สำหรับสินค้าจีไอ 2 รายการล่าสุดที่ได้รับการขึ้นทะเบียน มีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ กล่าวคือ คือ ผ้าหม้อห้อมแพร่ ซึ่งเป็นผ้าทอพื้นเมืองที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติหรือเส้นใยสังเคราะห์ที่ผ่านกระบวนการย้อมสีธรรมชาติ ทำให้เกิดลวดลายด้วยการมัดย้อม การจุ่ม หรือการพิมพ์ลายด้วยภูมิปัญญาการก่อหม้อห้อมที่ใช้ใบและต้นห้อมที่ปลูกในจังหวัดแพร่ ทำให้ผ้าทอและเสื้อผ้าที่ผ่านการย้อมมีเฉดสีฟ้าถึงสีน้ำเงินเข้ม มีกลิ่นหอมตามธรรมชาติ ซึ่งผลิตขึ้นในพื้นที่จังหวัดแพร่ ที่หลายท่านรู้จัก
ส่วน “กล้วยหอมทองปทุม” เป็นกล้วยหอมทองที่มีผลใหญ่ยาว หน้าตัดค่อนข้างกลม ปลายคอดเล็กน้อย ผิวนวล เปลือกบาง ผลดิบสีเขียวนวล ผลสุกสีเหลืองทองนวล เนื้อเหนียวแน่นรสชาติหอมหวาน ปลูกในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี
ทั้งนี้ หลังจากขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าจีไอแล้ว กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา มีแผนในการส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า โดยการจัดทำระบบควบคุมสินค้า เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ การช่วยพัฒนาหีบห่อบรรจุภัณฑ์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และผลักดันสินค้าจีไอ เข้าสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งมีแผนที่จะนำสินค้าจีไอ ไปจัดแสดง เช่น งาน GI Market 2020 เพื่อแนะนำสินค้าให้ผู้บริโภครู้จัก และการนำเข้าร่วมงาน Thaifex และงาน Style Bangkok 2020 เพื่อเปิดตัวออกสู่ตลาดต่างประเทศ