จำคุกไม่เกิน 7 ปีปรับ1.4แสน กักตุนแอลกอฮอล์ 1,200 แกลลอน
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เผยมีประชาชนบางส่วนฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมโรคพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตั้งวงสนุกสนาน และพบกักตุนแอลกอฮอล์ 1,200 แกลลอน ถือเป็นความผิดรุนแรง จำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
วันนี้ (1 เมษายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กล่าวว่า จากการปฏิบัติตลอด 4-5 วัน ยังมีประชาชนบางส่วนฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด หรือ ข้อกฎหมาย ทั้งที่ทุกฝ่าย และบุคลากรทางการแพทย์ ทำงานกันอย่างหนัก มีหลายกรณีเป็นการขอความร่วมมือแต่ยังฝ่าฝืน เช่น การมั่วสุม ตั้งวงสนุกสนาน ถือว่ากระทำกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบท ทั้ง พรบ.ควบคุมโรค และ พรก.ฉุกเฉิน
"หรือกรณีการกักตุนสินค้า ขายหน้ากากอนามัยเกินราคา ขณะที่ในกทม.ยังพบว่า มีการกักตุนแอลกอฮอล์ 1,200 แกลลอน ถือเป็นความผิดรุนแรง ซึ่งผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร) สั่งพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีอย่างจริงจัง จำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับและริบของกลาง"
ถัดมาคือ สิ่งที่เราเป็นห่วง คือ การกระทำเล็กน้อยแต่ทำให้คนตื่นตระหนก เช่น การเอาน้ำลายป้ายตามสถานที่ต่าๆ ซึ่งศาลได้ลงโทษจำคุก 15 วัน เพราะส่งผลกระทบ ถัดมาคือ แอบเล่นการพนัน ในสวน ในป่า ผิดทั้ง พ.ร.บ.การพนัน และ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และพ.ร.บ. โรคติดต่อ ดังนั้น อย่าฝ่าฝืน เราดำเนินการอย่างหนัก นายกฯ ให้ใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับพวกที่ซ้ำเติมความเดือดร้อนกับประชาชน เราถือว่าประเภทคดีต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน อีกทั้ง ผบ.ตร. กำชับให้ลงโทษสถานหนักไม่ต้องรอลงอาญา ขณะที่ในหลายจังหวัดห้ามออกนอกบ้านในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งไม่ใช่เวลาปกติ ขนส่งอุปโภคบริโภค ปัจจัย 4 หรือ ยารักษาโรค ถ้าทำธุระอื่นขอว่าอย่าออกจากบ้านดีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่
“ในส่วนของ จ.นนทบุรี ที่ประกาศเคอร์ฟิวไม่ควรออกนอกบ้าน 22.00-05.00 น. คนเดินทางต้องมีความจำเป็นโดยแท้ หรือบางจังหวัดจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่ผู้ว่าฯ สั่งปิดจังหวัดถ้าเข้า หรือ ออก จะผิด พรบ.โรคติดต่อ ดังนั้น ออกเท่าที่จำเป็นจริงๆ ถ้าไม่จำเป็นขอให้อยู่บ้าน” พล.ต.ท.ปิยะ กล่าว