ไม่ถึง 100% "คนไทยป้องกันตัวเองจากโควิด-19"
โฆษก ศบค.เผยผลสำรวจการป้องกันตัวเองจากเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการรัฐยังไม่ 100% ระบุใส่หน้ากากเวลาออกจากบ้าน 94.03% ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำ 90.47% รักษาระยะห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร 64.31% ย้ำขอให้ปฎิบัติอย่างเต็มที่ ลดจำนวนผู้ติดเชื้อ
วันนี้ (2 เมษายน 2563) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมออนไลน์ เรื่องความร่วมมือของประชาชนต่อมาตรการป้องกันโควิด-19 ของรัฐบาลระหว่างวันที่ 24-25 มีนาคม 2563 จำนวนสำรวจ 146,372 คน จาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ จัดทำโดยกรมควบคุมโรค สถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน และGBDi ว่า ผลการสำรวจ พบว่า การป้องกันตัวเองจากเชื้อโควิด-19 ประชาชนใส่หน้ากากอนามัย/ผ้าเวลาออกจากบ้าน 94.03% ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่และน้ำ 90.47% ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล 85.33%
รักษาระยะห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร 64.31% หลีกเลี่ยงการจับใบหน้า ตา จมูก ปาก 57.93% กินอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ 53.25% เช็ดโทรศัพท์มือถือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ 46.23% ปิดปากและจมูกเวลาจาม/ไอ และล้างมือทันที 45.78% กินวิตามินบำรุง 39.91% วัดอุณหภูมิร่างกายตัวเองทุกวัน 29.05% และไม่ทำอะไรเลย 0.52%
นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่าจากผลสำรวจพฤติกรรมของประชาชนต่อมาตรการป้องกันโควิด -19 นั้น ขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่ให้ความร่วมมือ แต่อยากจะให้ปฏิบัติเป็น 100% ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มีการมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดหาหน้ากากอนามัยส่งไปยังบุคลากรที่เป็นกลุ่มเสี่ยง และให้จัดทำหน้ากากผ้า สำหรับพี่น้องประชาชนที่ปกติ ไม่ได้เป็นกลุ่มเสี่ยง โดยขณะนี้ได้มีการจัดทำแล้ว 43 ล้านชิ้น และกำลังดำเนินการให้ครบ 45 ล้านชิ้น ที่สามารถซักได้เป็น 10-100 ครั้ง เพื่อแจกจ่ายไปยังพี่น้องประชาชนทุกคน ดังนั้น หากมีหน้ากากผ้าแล้ว อยากให้ทุกคนสวมใส่
ทั้งนี้ ทางด้านฝ่ายมั่นคง ซึ่งรับผิดชอบด้านสถานการณ์ฉุกเฉินได้ขอความร่วมมือนายจ้าง ผู้ประกอบการพิจารณาปรับปรุงการทำงาน ให้ทำงานที่บ้าน ลดการออกจากบ้าน เพื่อลดความแออัด และความเสี่ยง รวมถึงกำชับตำรวจ ทหาร ต้องรวมกำลังดูแลความสุขของพี่น้องประชาชน และจะร่วมกับทาง อสม.ในการลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน หรือไปทำความเข้าใจ สื่อสารกับพี่น้องประชาชน และบุคคลที่ทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทางตำรวจ ทหารยินดี เข้าไปร่วมกัน และทำให้การบังคับใช้กฎหมายได้ผล
“นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงคนไทยทุกคน ทั้งคนที่อยู่ในประเทศ และเดินทางมาจากต่างประเทศ หรือนอกประเทศ โดยได้มีการติดตามทุกคน และมีมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ฉะนั้น ขอให้ชาวไทย รวมถึงพ่อแม่ผู้ปกครอง และนักเรียนที่เรียนอยู่ต่างประเทศ ขอให้ติดต่อไปยังกระทรวงการต่างประเทศ และติดตามข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้ที่หน่วยงานต่างประเทศ กงสุล สถานทูตทั้งหลายที่อยู่ในแต่ละเมือง และหากไม่จำเป็นขอให้ชะลอการเดินทาง อาจจะเดินทางช้า แต่ขอให้ทุกคนอยู่ในที่ตั้ง เพราะไม่ว่าจะอยู่เมืองไหนตอนนี้ทุกแห่งต่างมีมาตรการในการป้องกันเรื่องนี้ ถ้าทุกคนอยู่แต่ในบ้าน ปฎิบัติดูแลตัวเอง และรอให้สถานการณ์ดีๆ ขึ้น ค่อยเดินทางมาก็ได้” นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว
นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่าส่วนบุคลากรทางการแพทย์ที่มีการติดเชื้อเพิ่มนั้น นายกรัฐมนตรี มีความกังวลใจ และเป็นห่วงมาก โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องใช้หน้ากาก N95 ซึ่งตอนนี้กำหนดไว้ว่าจะใช้ประมาณ 60,000 ชิ้นต่อวัน และต่อให้ทั่วโลกมีความต้องการ และมีผู้ผลิตน้อยลง ทางรัฐบาลได้มีการกระจายการสั่งไปยังประเทศต่างๆ เช่น มีคำสั่งซื้อจากประเทศจีน 2 ล้านชิ้น ญี่ปุ่นซึ่งได้มีการจัดส่งมาให้แล้ว รวมถึง ยารักษาด้วย ขณะนี้มีประมาณ 50,000 เม็ด และได้สั่งเพิ่มมาจากญี่ปุ่น 40,000 เม็ด และได้สั่งเพิ่มไปยังประเทศจีน อีกหนึ่งแสนเม็ด ประชาชนอย่างกังวลเรื่องเหล่านี้
“สำหรับกระแสข่าวว่าจะมีการยกระดับเคอร์ฟิลหรือไม่นั้น วันนี้ ขอให้ประชาชนทุกท่าน คิดตามหน้าจอโทรทัศน์ไว้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยในเรื่องนี้ เพราะหากมาตรการต่างๆ ยังไม่สามารถทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดน้อยลงได้ คงต้องมีมาตรการจากเยาไปหาหนัก และนายกรัฐมนตรีขอขอบคุณประชาชนทุกคน ที่ทำให้ทำให้ผลการติดเชื้อไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ได้ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ดังนั้น ขอให้ติดตามการประกาศทางหน้าโทรทัศน์เร็วๆ นี้"นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว
