เจน2พลิก‘ตลาดสี่มุมเมือง’โมเดิร์น!

“จะทำอย่างไรให้กว่า 40,000 ชีวิตภายใต้อาณาจักรตลาดสี่มุมเมือง 453 ไร่ ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์ขณะนี้น้อยที่สุด!?” เป็นภารกิจและความท้าทายครั้งใหญ่ของ ปณาลี ภัทรประสิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดอนเมืองพัฒนา จำกัด เจ้าของตลาดค้าส่งค้าปลีกผักผลไม้รายใหญ่ของไทย ในฐานะ "เจนเนอเรชัน 2" แห่งตลาดสี่มุมเมือง ก้าวเข้ามาร่วมนำทัพขับเคลื่อนธุรกิจ! ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบหนักหน่วงไปทุกภาคส่วน 

ปณาลี กล่าวว่า แม้ธุรกิจกำลังถูกคลื่นดิสรัปถาโถมรอบด้าน แต่เชื่อว่ายังมี “โอกาส” ที่จะต่อยอดความแข็งแกร่งของแบรนด์ตลาดค้าปลีกค้าส่งผักผลไม้ “ฮับ” แห่งอาเซียนในหลายแพลตฟอร์ม พลิกโฉมสร้างลุคใหม่ให้ตลาดสี่มุมเมืองสู่ความเป็นโมเดิร์น!

สอดรับวิถีธุรกิจยุคใหม่ ทั้งพ่อค้าแม่ค้า รวมถึงกลุ่มลูกค้า ล้วนมีการปรับตัว...เปลี่ยนพฤติกรรมการค้าขายและการซื้อสินค้าด้วยกันทั้งสิ้น

“ความสะดวก และ เทคโนโลยี คือตัวแปรที่ทำให้ผู้คนเริ่มเปลี่ยนวิถีชีวิต ขณะที่ธุรกิจต้องยกระดับมาตรฐานทั้งด้านสินค้า บริการ ราคา สร้างความสะดวกในการเข้าถึงลูกค้าพร้อมกับการขยายตลาดกว้างไกลยิ่งขึ้น" 

นั่นคือกรอบยุทธศาสตร์ของตลาดสี่มุมเมือง กิจการเก่าแก่ร่วม 37 ปีในมือผู้บริหารรุ่นใหม่ ที่ก่อนหน้านี้ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากธุรกิจรีเทล เอ็มโพเรี่ยม เอ็มควอเทียร์ รวมทั้งคอนซูเมอร์ยักษ์ใหญ่ยูนิลีเวอร์ คลุกคลี “การขาย” และ “ความต้องการของลูกค้าเป้าหมาย” ตลอดเวลาเป็นแนวทางในการค้นหา Consumer Insight  ตีโจทย์!!  ค้นหาและขจัด Pain Point ต่างๆ 

แผนฉุกเฉินในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 และมาตรการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ตลาดสี่มุมเมืองเชื่อมโยงผู้บริโภคเข้าถึง “อาหารสดส่งตรงถึงหน้าบ้าน” เสมือนซูเปอร์มาร์เก็ตเคลื่อนที่! ด้วยโปรเจก “รวมพิกัดเครือข่ายรถเร่สี่มุมเมือง” โดยใช้ “เทคโนโลยี” เข้ามาช่วยในการปักหมุดชี้เป้า! รวมพิกัดเครือข่ายรถเร่ไว้บนแผนที่กูเกิล ผ่านกองทัพเสบียงสี่มุมเมือง

“ตลาดสี่มุมเมืองทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางรวบรวมข้อมูลรถเร่ตั้งแต่เวลาเดินรถ หมายเลขทะเบียน พร้อมระบุเบอร์และไลน์ที่ใช้ในการติดต่อ กว่า 800 คัน ซึ่งเป็นลูกค้าของตลาดที่มาซื้ออาหารสด ผัก ผลไม้ ปักหมุดบอกเส้นทางของรถเร่ให้ประชาชนได้ทราบ เป็นการส่งเสริมพ่อค้าแม่ค้าให้เข้าถึงผู้ซื้อได้มากขึ้น”

การที่ผู้บริโภคเข้าถึงผู้ค้ารถเร่ได้โดยตรงจะช่วยให้ผู้ค้ารถเร่รู้ “ความต้องการล่วงหน้า” และ “บริหารจัดการสต็อก” หรือการซื้อจากตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ คาดว่าความนิยมของรถเร่ที่มาถูกจังหวะและเวลาจะขยายจำนวนได้ถึง 1,000 คันในสิ้นปีนี้

ล่าสุดยังพัฒนาช่องทางกระจายสินค้าให้พ่อค้าแม่ค้าเกษตรกร และเข้าถึงลูกค้า End User มากขึ้น ผ่านโปรเจกดีลิเวอรี “สี่มุมเมืองช่วยช้อป” รับจ่ายตลาดแทนช่วยลดการออกมานอกบ้านของผู้คน เบื้องต้นมีมอเตอร์ไซด์รับจ้างในเครือข่ายกว่า 60 คัน แท็กซี่ 40 คัน ให้บริการเวลา 8.00-22.00 น. ผู้ซื้อใช้บริการได้ทางไลน์ @smm_market ซึ่งจะมีผู้ช่วยช้อปส่วนตัวรับคำสั่งซื้อและไปจ่ายตลาดแทน  ราคาสินค้าเป็นไปตามราคากลางของตลาด ส่งฟรีในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รัสมีไม่เกิน 30 กิโลเมตร เมื่อสั่งซื้อ 699 บาทขึ้นไป รับสินค้าวันถัดไป

ตลาดสี่มุมเมืองขยายพื้นที่จาก 372 ไร่ เป็น 453 ไร่ ในปัจจุบัน จำหน่ายผักผลไม้สด 7,800 ตันต่อวัน สร้างเม็ดเงินสะพัดกว่า 300 ล้านบาทต่อวัน โดย 70% ของผักที่บริโภคในกรุงเทพฯและปริมณฑลมาจากตลาดสี่มุมเมือง มีรถชาวไร่กว่า 1,500 คันมาขายผักทุกวัน มีแผงขายรวม 1,800 แผง รถของลูกค้าหมุนเวียนวันละ 8,000 คัน แม้ว่าขณะนี้ลูกค้ากลุ่ม “ร้านอาหาร” และ “โรงแรม” จะลดลง แต่รถเร่ส่งกับข้าวถึงบ้านยังไปได้ดี

บิ๊กสเต็ป!ของตลาดสี่มุมเมืองเตรียมยกพลขึ้นซื้อขายบนโลกออนไลน์ วางแผนเปิดตัวแพลตฟอร์ม “อี-มาร์เก็ต”ในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า เป็นช่องทางสำคัญในการขยายตลาดสินค้าและบริการระดับภูมิภาคอย่างจริงจัง! เน้นการขายบีทูบี (Business to Business) 

หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และแผนธุรกิจระยะยาวตามโรดแมพ “ต่อยอด” ที่วางไว้อย่างชัดเจนเชื่อว่าจะทำให้ตลาดสี่มุมเมืองไม่เพียงสร้างความแข็งแกร่งของ Core Business  ศูนย์กลางค้าส่งค้าปลีกผักและผลไม้แห่งอาเซียน

แต่ยังสานความฝันของ ปณาลี ให้บรรลุเป้าหมาย...สร้างชุมชนแห่งความสุข หรือ “ดิสนีย์แลนด์” ของผักและผลไม้แห่งเมืองไทย อีกด้วย