ธุรกิจปรับแผนเกาะวิกฤติโควิด ชู ‘เทคโนฯ ดิจิทัล’ ยกระดับปลอดภัย
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิดขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทุกภาคส่วนต้องยกระดับแนวทางปฎิบัติ แผน งาน ปรับให้สอดรับสถานการณ์ขณะนั้นให้มากที่สุด หนึ่งในเครื่องมือสำคัญได้มีการนำ “เทคโนโลยี” ในรูปแบบต่างๆ มาปรับใช้
ทั้งในด้านการซื้อขายสินค้าและบริการ โดยเฉพาะ "การรับชำระเงิน" ที่เวลานี้กระแสผู้คน “ไม่อยากจับเงินสด” เป็นปัจจัยเร่ง! ยกระดับสังคมไร้เงินสด ผ่านระบบ “อีเพย์เมนท์” เลี่ยงการสัมผัสธนบัตร-เหรียญ ลดความเสี่ยงโควิด-19
ศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์ค้าส่งแม็คโคร แบบชำระเงินสดและบริการตัวเอง หรือ Cash & Carry กล่าวว่า แม็คโคร พร้อมรับการชำระเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีเพย์เมนท์ (E-Payment) เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้คนอยากหลีกเลี่ยงการสัมผัสเงินสด หรือสิ่งของต่างๆ รวมถึงตอบรับไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมของคนยุคใหม่ที่มีแนวโน้มการใช้จ่ายแบบไร้เงินสด หรือการทำธุรกรรมการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือมากขึ้น
“สถานการณ์โควิด ผู้คนกังวลเรื่องการสัมผัสกับธนบัตร เหรียญ ซึ่งการรับชำระเงินด้วยอีเพย์เมนท์จะช่วยลดความกังวลของลูกค้า"
ทั้งนี้ แม็คโครพร้อมรับชำระเงินด้วย อีเพย์เมนท์ ไม่ว่าจะเป็นคิวอาร์โค้ด จากโมบายแบงก์กิ้งของธนาคาร หรือทรูมันนี่ อีวอลเลท เพื่อสร้างความสะดวก รวดเร็ว ในการชำระเงินที่แคชเชียร์ทุกสาขาทั่วประเทศ
ขณะเดียวกัน เทรนด์การใช้จ่ายแบบไร้เงินสดในประเทศไทย พบว่า มีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากปัจจัยสนับสนุนประชากรสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้น จำนวนการใช้งานอินเตอร์เน็ตสูง 50.08 ล้านคน ใช้เวลาในโลกอินเตอร์เน็ต 10.22 ชั่วโมงต่อวัน ขณะที่โครงข่ายโทรคมนาคมครอบคลุมทุกพื้นที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในความปลอดภัยด้านการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์การผลักดันของภาครัฐในการใช้ National e-payment ยอดใช้โมบายดาต้าในช่วง Work-learn from Home เพิ่มขึ้นถึง 11.14% ทีเดียว
ขณะที่ร้านซูเปอร์มาร์เก็ต สถานที่สำคัญในการจับจ่ายสินค้าอุปโภคบริโภค มุ่งให้ความสำคัญทางด้านความปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าที่มาใช้บริการ ล่าสุด "เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์" นำนวัตกรรมหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวี-ซี (UV-C DISINFECTION ROBOTS) มาเสริมศักยภาพในการทำความสะอาดร้านเพื่อลดการแพร่กระจายของไวรัสโควิด นับเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตรายแรก ที่นำนวัตกรรมหุ่นยนต์ผู้ช่วยด้านความสะอาดปลอดภัย ปฏิบัติงานฆ่าเชื้อโรค ประเดิม เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ สาขาชิดลม ในเวลาปิดทำการของร้าน และมีแผนการใช้นวัตกรรมหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวี-ซี ขยายไปยัง “ท็อปส์ มาร์เก็ต” และ “เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์” สาขาอื่นๆ
สำหรับนวัตกรรมหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวี-ซี เป็นส่วนหนึ่งของการหาแนวทางเสริมมาตรการด้านความปลอดภัย ช่วยลดความผิดพลาดในกระบวนการทำงานของมนุษย์
‘ร้านสะดวกซื้อ’จำกัดจำนวนลูกค้าเข้าร้าน
ร้านสะดวกซื้อใกล้บ้านเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับลูกค้าที่ต้องการหลีกเลี่ยงการเดินทาง ซึ่งมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก! ในสถานการณ์โควิดนี้ โดยผู้ประกอบการหลายรายยกระดับมาตรการความปลอดภัยด้วยการ “จำกัด” ปริมาณลูกค้าเข้าใช้บริการ แฟมิลี่มาร์ท วางนโยบายร้านสะดวกซื้อปลอดภัย นอกจากปฏิบัติตามหลัก Social distancing เพื่อรักษาระยะห่างความปลอดภัยระหว่างลูกค้า รวมถึงการให้บริการแบบลดการสัมผัสล่าสุดเพิ่มมาตรการใหม่"จำกัดลูกค้าเข้าใช้บริการครั้งละไม่เกิน 10 คน" พร้อมเพิ่มชั่วโมงทำความสะอาดโดยปิดร้านวันละ 1 ชั่วโมง ในเวลา 03.00-04.00น. สำหรับสาขาที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง เพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค นอกจากทำความสะอาดตามปกติ
“แคชเชียร์ใช้ถาดขนาดเล็กสำหรับรับ-ส่งเงินกับลูกค้า ซึ่งแจ้งหมายเลขสมาชิกเดอะวัน หรือแสดงคิวอาร์โค้ดจากแอพพลิเคชััน หรือไลน์ แทนการกดปุ่มเลขสะสมคะแนน สนับสนุนให้ลูกค้าชอปปิงแบบไม่สัมผัส”
เช่นเดียวกับ “เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส” กว่า 1,600 สาขาทั่วประเทศ ดำเนินมาตรการจำกัดจำนวนลูกค้าที่ใช้บริการในร้านครั้งละไม่เกิน 15 คน เพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยขณะเลือกซื้อสินค้า