เคอร์ฟิว3-4 เม.ย.มั่วสุม เสี่ยงแพร่เชื้อ 24 คัน 41 คน
เคอร์ฟิว 3-4 เม.ย. พบมีรถผ่านจุดตรวจ 7,997 คัน ผู้ผ่านจุดตรวจ 11,610 คน กระทำผิด 522 คัน 677 คน มั่วสุ่มที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ 24 คัน 41 คน
เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวว่าจากการติดตาม 158 คนไทยที่ได้ออกไปจากสนามบินสุวรรณภูมินั้น ขณะนี้ได้มีการติดตามตัวกลับมาครบหมดแล้ว และได้เข้าสู่กระบวนการกักตัวเรียบร้อยแล้ว
โดยได้แบ่งเป็นกลุ่มที่อยู่ต่างจังหวัด 65 คน กระจายไปใน 27 จังหวัด โดยเป็นภาคกลาง 7 จังหวัด ภาคเหนือ 6 จังหวัด ภาคอีสาน 8 จังหวัด ภาคใต้ 2 จังหวัด และภาคตะวันออก 4 จงหวัด สถานที่กักกันตัว เป็นโรงพยาบาล โรงแรม/รีสอร์ท และสถานที่ราชการ ส่วนรายงานตัวกทม. คือที่ EOC สุวรรณภูมิ ได้เข้าพักที่โรงแรม 93 คน สถานที่กักตัว เป็นโรงแรม 2 แห่ง ดังนั้น ทางรัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุขได้เข้าไปดูแลอย่างดีตลอด 14 วันที่กักตัว เพราะหากใครที่ไม่ได้ติดเชื้อก็จะถือเป็นการอยู่ดูแลตัวเอง และถ้าเป็นผู้ติดเชื้อ ก็จะได้รับการดูแลรักษา และมั่นใจว่าผู้ติดเชื้อจะไม่ไปเป็นผู้กระจายแพร่เชื้อให้ผู้อื่น
อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์เคอร์ฟิวในการปฎิบัติการงดออกนอกเคหะสถานตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตั้งแต่ 22.00-04.00 น. ซึ่งได้มีการตั้งจุดตรวจควบคุม 634 จุดในพื้นที่ 77 จังหวัด โดยในคืนวันที่ 3-4 เม.ย.2563 พบว่า มีรถผ่านจุดตรวจ 7,997 คัน ผู้ผ่านจุดตรวจ 11,610 คน ตรวจพบการกระทำผิด คือ ฝ่าฝืนโดยไม่มีเหตุผลในการเดินทาง แบ่งเป็นยานพาหนะ 522 คัน ผู้กระทำความผิด 677 คน การรวมกลุ่มมั่วสุ่มที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ แบ่งเป็นยานพาหนะ 24 คัน ผู้กระทำความผิด 41 คนได้กระทำการตักเตือน 375 คน และดำเนินคดี 325 คน นอกจากนั้น ผู้ขับขี่ในยามกลางคืน ส่วนใหญ่เป็นผู้ขนส่งสินค้าอุปโภค บริโภค ผลผลิตทางการเกษตร และบุคลากรทางการแพทย์ ได้รับการยกเว้น