4 ยักษ์ 'เดลิเวอรี่' ไทย ประสานเสียงตรึงราคา ฝ่าวิกฤติโควิด

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่แพร่ระบาดอยู่ขณะนี้ หนึ่งในธุรกิจที่ได้รับโอกาสจากวิกฤติครั้งนี้ คือ กลุ่มผู้ให้บริการเดลิเวอรี่ในประเทศไทย เนื่องจากดีมานด์ที่มากขึ้น ประกอบกับมาตรการความปลอดภัยที่ต้องมีควบคู่กันไป ทำให้ผู้ประกอบการที่มีในไทยกว่า 17 ราย ได้มีปฏิญานในเรื่องของความสะอาด ถูกสุขลักษณะ และปราศจากเชื้อโควิด

ล่าสุดในรายการพิเศษรวมใจสู่ภัยโควิด-19 (10 เมษายน 2563) ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 มี 4 แบรนด์เดลิเวอรี่ มาร่วมตอกย้ำความมั่นใจในมาตรการความปลอดภัยของผู้ส่งอาหารในช่วงโควิด -19 ระบาด ให้กับผู้บริโภค ดังนี้

• Grab

“ดร.เก่งการ เหล่าวิโรจนกุล” ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า แกร็บเน้นย้ำเรื่องสุขอนามัย โดยประสานกระทรวงสาธารณสุขตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ด้านคนขับ มีการตรวจคนขับก่อนออกรับ-ส่ง ด้วยการวัดอุณหภูมิร่างกาย ในขั้นตอนการรอรับอาหารให้คนขับรอห่างกันระยะห่างประมาณ 1.5-2 เมตร ซึ่งมีการประสานกับร้านอาหารด้วย และพยายามไม่สัมผัสกับผู้รับอาหาร รวมถึงมีศูนย์รับเรื่องในการบริการให้สำหรับลูกค้าในการประเมินคนขับ ขณะเดียวกันก็มีการนำอีเพย์เมนท์เข้ามาใช้ 

"ขณะที่เรื่องของราคา แกร็บประกาศจุดยืนว่าจะไม่ขึ้นราคาอีกเลยจนกว่าสถานการณ์โควิด-19 จะจบ ไม่ว่าจะนานแค่ไหน นอกจากนี้ลูกค้าสามารถเข้าไปดูโปรโมชั่นพิเศษมากมายในแอพพลิเคชั่นแกร็บ เช่น 1 แถม 1, ลดราคา 50% ฯลฯ"

ปัจจุบันแกร็บ มีไรเดอร์ หรือคนขับนับแสนคนอยู่แล้ว ในช่วงที่ลำบากแบบนี้ ได้เปิดรับสมัครเพิ่มหลายหมื่นตำแหน่ง โดยในช่วงที่ผ่านมาสมัครเข้ามาแล้วกว่า 2.9 หมื่นตำแหน่ง และยังคงเปิดรับอีกนับหมื่นตำแหน่ง อีกมุมหนึ่งร้านอาหารก็รับเพิ่มเรื่อยๆ ทั้งนี้หากไรเดอร์หรือร้านอาหารที่สนใจเข้าร่วมสามารถเข้าไปสมัครได้ที่เว็บไซต์ของแกร็บ สำหรับไรเดอร์หากมีเอกสารครบ สามารถเปิดให้ปฏิบัติงานได้ภายใน 1-2 วัน โดยไม่ต้องมีทุนในการรับอาหารก่อน ด้านร้านอาหารใช้เวลาประมาณ 7 วัน เนื่องจากต้องการเชื่อมโยงกับร้านอาหารด้วยเทคโนโลยีแบบ 100% 

• ฟู้ดแพนด้า

“พีรพล สง่าเมือง” ผู้อำนวยการฝ่ายพาณิชย์ Food Panda Thailand กล่าวว่า ฟู้ดแพนด้าให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของลูกค้า โดยมีมาตรการ 3 ด้าน ได้แก่ การเตรียมพร้อม ทั้งการแจกหน้ากากอนามัย ถุงมือ เจลล้างมือ ให้กับคนขับ รวมถึงทำความสะอาดกล่องบรรจุอาหาร อีกทั้งก่อนที่ไรเดอร์หรือคนขับจะออกรับส่งอาหาร ฟู้ดแพนด้ามีการทำเช็คลิสต์ให้กรอกแบบสอบถามสุขภาพก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอาการป่วย รวมถึงยังมีทีมงานสุ่มตรวจถึงมาตรฐาน รวมถึงได้ประชาสัมพันธ์ Contactless Delivery ให้พนักงานอยู่ห่างจากลูกค้าในระยะ 3 เมตร 

"ปัจจุบันฟู้ดแพนด้ามีพาร์ทเนอร์ราว 5 หมื่นร้าน กระจาย 52 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้ร้านอาหารที่มีอยู่ 99% มีค่าส่งเป็น 0 บาท เรายังคงนโยบายเดิม สำหรับค่าคอมมิชชั่นที่เก็บจากร้านค้าก็ยังเหมือนเดิม เราจะไม่เก็บเพิ่มขึ้น"

นอกจากนี้ ยังประกาศรับสมัครไรเดอร์เพิ่มเติมเพื่อรองรับประชาชนที่ว่างงานจากสถานการณ์โควิดได้มีงานทำ โดยเขาเปิดเผยว่า ปกติช่วงก่อนสถานการณ์โควิดจะมีผู้เข้ามาสมัครเป็นพนักงานขับรถประมาณสัปดาห์ละ 2-3 พันคน แต่ช่วงนี้มีคนมาสมัครราว 5-6 พันคน ซึ่งฟู้ดแพนด้าได้เริ่มใช้ระบบ Contactless โดยผู้สมัครไม่ต้องเจอเทรนเนอร์ แต่ยังคงต้องตรวจประวัติอาชญากรรม และรับอุปกรณ์เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีประกันชีวิต ประกันภัย และประกันโควิด-19 ให้กับคนขับทุกคนด้วย ในส่วนของเจ้าของร้านอาหารก็สามารถสมัครเข้าได้ง่ายๆ ทางเว็บไซต์ ซึ่งจะใช้เวลาราว 1-2 สัปดาห์"

• ไลน์แมน

“วรานันท์ ช่วงฉ่ำ” หัวหน้ากลุ่มพัฒนาธุรกิจและการตลาด LINE MAN กล่าวว่า ตั้งแต่สถานการณ์โควิด ทางบริษัทมองว่าคนขับเป็นความสำคัญที่สุด เพราะฉะนั้นจึงให้แนวทางข้อปฏิบัติและข้อมูลกับคนขับ หลังจากนั้นเราออกมาตรการ Contactless ไม่สัมผัสในการส่งอาหาร ซึ่งได้มีการประสานไปทางร้านอาหารเพื่อรับนโยบายด้วย นอกจากนี้มีการจัดหาหน้ากากอนามัย เจลแอลกฮอล์ให้คนขับ และเร่งขยายร้านอาหารที่รับบริการไลน์เพย์ หรือระบบอีเพย์เมนท์ให้ได้มากที่สุด

"ช่วงสถานการณ์นี้ ในแง่ของค่าบริการ ไลน์แมนยังยืนราคาเท่าเดิม ไม่ปรับขึ้น โดยค่าบริการไลน์แมนมี 2 ส่วน ส่วนแรกคิดตามระยะทางเป็นกิโลเมตร แล้วแต่ประเภทร้านอาหาร และอีกส่วนหนึ่ง ร้านที่เป็นพันธมิตรกับไลน์แมนจะมีค่าส่ง 10 บาท เมื่อลูกค้าสั่งภายในระยะทาง 6 กิโลเมตร ก็ยังคงราคานี้อยู่"

ขณะเดียวกันไลน์แมนยังเป็นพาร์ทเนอร์กับลาลามูฟ โดยจะเข้ามาทำหน้าที่รับสมัคร ตอนนี้กระบวนการรับสมัครสามารถทำได้ผ่านออนไลน์ เพื่อให้กระบวนการเร็วยิ่งขึ้น โดยมีมาตรการสำหรับคนขับ ซึ่งจะได้รับประกันชีวิต อุปกรณ์ เช่น เสื้อ กล่องบรรจุอาหาร และยังเสริมข้อปฏิบัติให้ทั้งคนส่งและผู้รับ ร้านอาหาร อีกทั้งร่วมกับวงใน เป็นพาร์ทเนอร์ในการดูแลร้านอาหาร โดยขณะนี้เปิดให้ร้านสตรีทฟู้ดและเชนร้านอาหารใกล้บ้าน เปิดให้เข้ามาร่วมได้ เพียงใช้ระยะเวลาแค่ 1 วัน ซึ่งขณะนี้มีเข้ามาร่วมแล้ว 5-6 เท่า ซึ่งตอนนี้กำลังเร่งพัฒนาฟีเจอร์ให้ร้านอาหารในการเพิ่มโปรโมชั่นของร้านค้าตัวเองได้

• เก็ท

“ก่อลาภ สุวัชรังกูร” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดแอพพลิเคชั่น GET (เก็ท) กล่าวว่า เก็ทห่วงเรื่องสุขอนามัยเป็นหลัก ไม่ได้ห่วงแค่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เก็ทห่วงทั้งลูกค้า พาร์ทเนอร์ และคนขับ ทั้งนี้ได้ใช้ Contactless ฟีเจอร์ใหม่ ให้ลูกค้าสามารถจ่ายเงินผ่าน QR พร้อมเพย์ โอนผ่านระบบออนไลน์ รวมถึงสามารถแจ้งคนขับนัดดร็อปสินค้าได้ ขณะเดียวกันก็มีการให้ความรู้กับคนขับ มีการเทรนนิ่งแบบคอนแทคเลส แจกหน้ากากอนามัย และร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ล้างรถแบบปราศจากเชื้อให้กับคนขับ

"เรามีค่าส่งเริ่มต้น 10 บาท ก็ยังคงเดิม ในมุมร้านอาหารที่เป็นพาร์ทเนอร์ เราก็ไม่มีการปรับขึ้นในแง่ GP ที่เก็บแน่นอน"

ขณะนี้เก็ทมีคนสนใจเข้ามาร่วมจำนวนมาก คนขับมีการขยายฐานอย่างกว้างขึ้น ไม่จำเป็นค้องมีมอเตอร์ไซค์ก็สามารถเข้าร่วมได้ สามารถเดินส่งสินค้าให้เราได้ ซึ่งเก้ทจะมีประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และประกันโควิดให้กับคนขับ โดยไม่มีการเก็บค่าแรกเข้า และร้านอาหารก็ได้มีการทำทุกอย่างให้เป็นออนไลน์แล้ว ทุกคนสามารถโหลดเอกสารผ่านทางออนไลน์ได้เลยในการสมัคร ซึ่งใช้ระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น