แกะสูตร(ไม่)ลับ “มาชิตะ” ผนึกร้านดัง หวังโต..ยกกำลัง
แม้กิจกรรมหลายอย่างจะถูกเบรก แต่นักการตลาดที่มองเห็นโอกาส ต้องหมั่นคิด หาวิธี วางกลยุทธ์ เพื่อให้สินค้ายังอยู่ในใจกลุ่มเป้าหมาย ในจังหวะที่ผู้บริโภคอยู่บ้าน "มาชิตะ" ไม่รีรอ พัฒนาสินค้าใหม่ เสิร์ฟความอร่อยถึงบ้าน
แม้การระบาดของโรคโควิด-19 จะส่งผลให้กิจกรรมการตลาดหลายอย่างหยุดชะงัก แต่สำหรับแบรนด์ที่ยังมองเห็นโอกาส ย่อมไม่หยุดนิ่ง ยอมแพ้ให้กับวิกฤติใดๆ เพราะการลุกขึ้นมาสร้างสีสัน กระตุ้นการตัดสินใจให้คนซื้อสินค้าไปบริโภคในยามอยู่บ้าน อาจได้ใจกลุ่มเป้าหมายไปเต็มๆ
ที่ผ่านมาจะเห็นว่ากลยุทธ์การทำตลาดในปัจจุบันด้วยการผนึกพันธมิตร มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะแบรนด์มองการใช้ศักยภาพ “จุดแข็ง” ของ 2 ฝ่ายมาสร้าง “พลัง” ให้เกิดผลกระทบเชิงบวกกับผู้บริโภค ที่ไม่ใช่แค่ 1+1 เท่ากับ 2 แต่ผลลัพธ์ต้องได้มากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มใหม่ๆเพิ่ม สร้างยอดขายให้โตเร็ว แบ่งปันองค์ความรู้(Know how) ศาสตร์ลับการทำตลาดเสริมแกร่งซึ่งกันและกัน เป็นต้น
ตลาดสาหร่ายแม้จะมีมูลค่า “พันล้านบาท” แต่การแข่งขันเข้มข้นตลอด จากบิ๊กแบรนด์ เพื่อชิงไหวชิงพริบ ชิงส่วนแบ่งทางการตลาดมาเป็นของตัวเอง ล่าสุด “สาหร่ายมาชิตะ” เดินหน้ากลยุทธ์ Collaboration ผนึกพันธมิตรร้านอาหารแบรนด์ดัง จับเมนูยอดนิยมผสานสาหร่ายเกรดเอสไตล์เกาหลี ลงซองมาชิตะ ผ่านแคมเปญ “มาชิตะ x ร้านดัง อร่อยปัง ยกกำลังสอง” ประเดิมควงคู่แบรนด์ไก่ทอดเกาหลีชื่อดัง “บอนชอน ชิคเก้น” (BonChon Chicken) ผสานสองจุดแข็งสไตล์เกาหลี เสิร์ฟสินค้าใหม่ “สาหร่ายอบสไตล์เกาหลี รสไก่ทอดซอยการ์ลิค” สร้างความคึกคักต้อนรับซัมเมอร์ ผลักดันยอดขายกลุ่มสาหร่ายอบเติบโต 40%
ธิติพร ธรรมาภิมุขกุล ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มการตลาดแบรนด์และผลิตภัณฑ์ใหม่ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ย้ำหัวใจสำคัญในการทำตลาดสาหร่าย “มาชิตะ” ยกให้เรื่อง “ผลิตภัณฑ์” ที่มาชิตะเป็นแบรนด์เดียวในตลาดสาหร่ายที่ทุกสินค้าเป็นสูตร 0% ผงชูรส (No Msg)
ทั้งนี้ สินค้ามี “จุดแข็ง” ในตัวเอง สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ การทำการตลาดด้วยแนวคิดใหม่ๆ เพื่อให้ตัวสินค้าและแบรนด์เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภค สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง เติมเต็มประสบการณ์ให้กับผู้บริโภค โดยให้ความสำคัญกับการทำตลาดร่วมมือกับพันธมิตร (Partnership Marketing) หรือกลยุทธ์ Collaboration กับแบรนด์ที่มีศักยภาพ นำจุดแข็งความอร่อยของทั้ง 2 ฝ่าย มาสร้างความสำเร็จด้านการเติบโตร่วมกัน
ขณะที่แคมเปญ“มาชิตะ x ร้านดัง อร่อยปัง ยกกำลังสอง” ซึ่งแบรนด์เลือกร้าน “บอนชอน” ประเดิมโปรเจค เพราะเป็นแบรนด์ขวัญใจวัยรุ่นสอดคล้องกับมาชิตะ จึงรวมพลังนำเมนู Signature ยอดนิยมของร้านอย่าง “ไก่ทอดซอยการ์ลิค” ผสานกับสาหร่ายมาชิตะ คุณภาพพรีเมี่ยมจากเกาหลี 100% มาอยู่ในซองตอบสนองความต้องการผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย
ทั้งนี้ การผสานพลังของ 2 แบรนด์ จะช่วยขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น เนื่องจาก “บอนชอน ชิคเก้น” มีแฟนคลับจำนวนมากที่ชื่นชอบไก่ทอด ตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยทำงาน และกลุ่มครอบครัว โดยการร่วมมือครั้งนี้ จะทำให้เกิดการ Cross ของฐานกลุ่มเป้าหมาย
“สาหร่ายมาชิตะให้ความสำคัญกับแนวทางการตลาดแบบ Partnership Marketing มาโดยตลอดซึ่งก่อนหน้านี้มาชิตะได้มีการ Collaboration(X)กับแบรนด์ร้านอาหารปิ้งย่างชื่อดังของเมืองไทยอย่างบาร์บีคิวพลาซ่า และได้รับผลตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก โดยในปีนี้ เรายังเดินหน้าสร้างสีสันตลาดสาหร่ายอย่างต่อเนื่องผ่านแคมเปญมาชิตะXร้านดัง อร่อยปัง ยกกำลังสอง โดยนำร่องกับร้านไก่ทอดเกาหลีบอนชอน ยกความอร่อยมาไว้มาอยู่ในซองสาหร่ายอบมาชิตะ เพื่อเอาใจผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ”
ขณะที่ภาพรวมตลาด สแน็คสาหร่ายในปี 2562 มาชิตะมีส่วนแบ่งทางการตลาด 16.6% เป็นอันดับ 2 ที่มีความแข็งแรงมากขึ้น และล่าสุด สาหร่ายมาชิตะ มีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มเป็น 18% (ข้อมูลเดือนม.ค.-ก.พ.63)