เครือข่ายหนุนแก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือติงไล่จับชาวบ้านเผาป่า

เครือข่ายหนุนแก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือติงไล่จับชาวบ้านเผาป่า

แนะรัฐ แก้ที่ต้นเหตุ สร้างการมีส่วนร่วมดูแลปัญหาไฟป่า

ประธานสภาลมหายใจเชียงใหม่ ชัชวาลย์ ทองดีเลิศ ได้โพสต์เฟสบุ๊คแสดงความกังวลต่อการสนธิกำลังจับกุมคนเผาป่าในภาคเหนือในเวลานี้ เพราะหากเป็นชาวบ้านที่เผาป่าตามวิถีชีวิต อาจสร้างความขัดแย้งไม่รู้จบ

โดยนายชัชวาลย์กล่าวว่า ได้ข่าวการสนธิกำลังจับกุมชาวบ้านที่เผาป่า ซึ่งหากเป็นนายทุนหรือชาวบ้านมีเจตนาบุกรุกป่าก็ไม่ว่ากัน แต่หากเป็นชาวบ้านที่เผาไร่ตามวิถีชีวิตแบบพออยู่พอกิน และอยู่มาก่อนประกาศเขตป่าอนุรักษ์ป่าสงวน ก็จะกลายเป็นประเด็นขัดแย้งไม่รู้จบ

ในวันสงกรานต์ นายชัชวาลย์จึงขอให้รัฐบาลส่งสัญญาณที่จะแก้ปัญหาต้นเหตุ เปลี่ยนความขัดแย้งเป็นความร่วมมือในการดูแลป่า สร้างการมีส่วนร่วมให้ชุมชนดูแลไฟและฝุ่นควันอย่างยั่งยืนกันในระยะกลางนะยะยาวจะดีกว่า ก่อนที่ความขัดแย้งจะบานปลาย

ทั้งนี้ หลังจากการลงพื้นที่ตรวจการทำงานของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีท๊ดูแลปัญหา ที่จังหวัดเชียงใหม่อาทิตย์ที่ผ่านมา ได้มีการสนธิกำลังเข้าจับกุมคนที่เผาป่าอย่างเข้มงวดในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ

โดยที่อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อสองวันที่ผ่านมา ชุดเหยี่ยวไฟ กรมป่าไม้ ได้ร่วมกันลาดตระเวนและตรวจสอบพื้นที่ป่ากับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ระหว่างเส้นทางจากบ้านนาเกียน - บ้านแม่สอ ในตำบลนาเกียน

ทางคณะเจ้าหน้าที่ นำโดยสำนักป้องกันฯ รายงานว่า พบมีการเผาป่า ในลักษณะการทำไร่หมุนเวียนของชาวกะเหรี่ยงที่มีการขยายพื้นที่ออกไปในป่าต้นน้ำลำธาร โดยตรวจสอบพบมีการตัดต้นไม้ขนาดใหญ่และขนาดเล็กลงทั้งหมด และภายหลังได้มีการจุดไฟเผาทำลายพื้นที่และไฟได้ลุกลามออกไปไหม้ป่าธรรมชาติที่ติดต่อกันเป็นวงกว้าง


เจ้าหน้าที่สอบถามกำนันตำบลนาเกียนและผู้ใหญ่บ้านที่เข้าร่วมตรวจสอบ ได้ความว่าเป็นการบุกรุกขยายพื้นที่ทำกินและเป็นการเผาป่าของชาวบ้าน และควบคุมไฟไม่ได้จนลุกลามเข้าป่าธรรมชาติ จึงได้จัดทำบันทึกดำเนินคดีตรวจยึดพื้นที่ที่ถูกบุกรุก จำนวน 4 ไร่ ซึ่งเป็นแปลงขยายที่ทำกินจากไร่หมุนเวียนเดิม และอีกแปลงใกล้เคียง รวมทั้งแจ้งความดำเนินคดีกับชาวบ้านแม่สอหนึ่งราย

ที่เชียงดาว เกิดไฟป่าบริเวณรอบๆดอยหลวงเชียงดาวอย่างต่อเนื่องหลายจุดและกระจายเป็นบริเวณกว้างตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน โดย เจ้าหน้าที่และชุมชน ได้ระดมกำลังหลายส่วนช่วยกันทำการดับไฟ จัดทำแนวกันไฟเพื่อสกัดกั้น และลาดตระเวนเพื่อหาตัวผู้กระทำผิด และสามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าป่าได้จำนวน 1 คน และตรวจพบร่องรอยการเข้าไปเก็บหาของป่าในพื้นที่ (น้ำผึ้งป่า) ซึ่งคาดว่าจะเป็นสาเหตุของไฟป่า โดยยังพยายามรวบรวมพยานหลักฐานหาตัวผู้กระทำผิด

ที่อุทยานแห่งชาติศรีลานนาในอำเภอเชียงดาวเช่นกัน เจ้าหน้าที่จับกุมตัวผู้กระทำความผิดได้ 1 คน ขณะกำลังใช้มีดฟันกิ่งไม้แผ้วถางเก็บริบเตรียมสุมเผาในวันที่ 13 เมษายน

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานว่า มีคดีไฟป่าเพิ่มในวันนี้รวม 22 คดี รวมคดีสะสมตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 805 คดี

สถานการณ์ไฟป่าในภาพรวมดีขึ้น ทส.ระบุ โดยสามารถดับไฟป่าได้ 327 จุด หรือร้อยละ 94 และค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ลดลงอยู่ที่ระหว่าง 22-86 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ทั้งนี้ มีพายุฤดูร้อนในช่วงวันที่ 15-20 เมษายนนี้

ภาพ/ เผาป่าที่อมก๋อย/ คุยกับอธิบดีกรมป่าไม้