'ผู้สูงอายุเพิ่ม อัตราเกิดต่ำ เศรษฐกิจติดหล่ม' ผีซ้ำด้ามพลอย ปัญหาประเทศไทย
จากปัจจัยที่อนาคตไทยจะขาดแคลนคนหนุ่มสาววัยทำงานที่จะผลักดันเศรษฐกิจให้เดินหน้า เนื่องจากอัตราการเกิดต่ำ ในขณะที่จะถูกรั้งโดยผู้สูงอายุที่ทำงานไม่ได้มากขึ้น ซึ่งจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจไทยจะนั้นยิ่งติดหล่มหนักขึ้น
ช่วงนี้เขียนบทความลง นสพ.เรื่องเหล่านี้หลายครั้งติดๆ กัน เพราะทั้ง 3 เรื่องเกี่ยวข้องกันอย่างแยกไม่ออก ไม่รู้ว่าเป็นบุญหรือกรรมที่ประเทศไทยมีลักษณะของประชากรที่ไม่เหมือนประเทศอื่น ทำให้ไม่มีโมเดลของประเทศใดที่จะเอามาเป็นแบบอย่างได้ เพราะโดยทั่วไป ประเทศที่มีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมักเป็นประเทศที่มีพัฒนาการทางเศรษฐกิจสูง เมื่อเศรษฐกิจดีประชาชนก็จะมีการดูแลตัวเองดีมีสุขภาพดี ประชาชนอายุยืนยาวขึ้น
แต่ของเรากลับตรงกันข้าม ทั้งที่เศรษฐกิจทั้งของประเทศและครัวเรือนไม่สูง แต่จำนวนผู้สูงอายุกลับสูงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนมีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2030 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุที่อายุ 60 ปีขึ้นไปมากถึง 25% ของประชากรทั้งประเทศ
ในขณะเดียวกัน อัตราการเกิดที่ต่ำมากเป็นประวัติการณ์ที่ 1.5% ก็เป็นอะไรที่เหลือเชื่อว่าอัตราการเกิดของเราลดอย่างมาก ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของโลกที่ 2.1% ที่จะทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าได้
เมื่อเป็นเช่นนี้ เศรษฐกิจไทยจะยิ่งติดหล่มหนักขึ้นและหนักขึ้น เพราะทั้งขาดแคลนคนหนุ่มสาววัยทำงานที่จะผลักดันเศรษฐกิจให้เดินหน้า ในขณะที่จะถูกรั้งโดยคนแก่ผู้สูงอายุที่ทำงานไม่ได้มากขึ้นและมากขึ้น
จากบทความนี้ พบว่านักลงทุนไทยกำลังออกไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อเทียบสัดส่วนกับประเทศที่พัฒนามากกว่า มีเงินทุนมากกว่าไม่ว่าเกาหลีใต้ ไต้หวัน มาเลเซีย นักลงทุนไทยกลับมีการลงทุนนอกประเทศในอัตราที่สูงกว่า
เหตุผลก็คือ เศรษฐกิจไทยไม่มีอนาคต โอกาสที่จะเติบโตมีน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ที่ยังมีประชากรวัยแรงงานมากพอที่จะขับเคลื่อนประเทศได้ แต่ของเรามีโอกาสน้อยกว่ามาก
ยังนึกไม่ออกว่า ถ้าประชากรไทยถึง 25% จะกลายเป็นคนแก่ที่ทำงานไม่ได้ในปี 2030 เราจะอยู่กันอย่างไร ใครจะอุ้มคนแก่เหล่านี้
โดยเฉพาะเป็นคนแก่ที่ยากจน คนแก่ที่ไม่มีเงินออม คนแก่ที่ช่วยตัวเองไม่ได้ คนแก่ที่ไม่มีลูกหลานดูแล เพราะจำนวนลูกหลานก็น้อยลงเช่นกัน
ทางออกของเราคงหนีไม่พ้นการใช้เทคโนโลยีทำงานแทนมนุษย์มากขึ้น คนไทยที่อยู่ในวัยทำงานต้องทำงานมากขึ้น สร้างเงินออมมากขึ้น ช่วยตัวเองมากขึ้น และใช้ชีวิตอย่างสมถะมากขึ้น
ส่วนรัฐบาลนั้นก็คงต้องทำงานหนักเพื่อพยุงเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ ส่งเสริมให้มีการลงทุนจากต่างประเทศมากขึ้น สร้างทรัพยากรมนุษย์ให้มีศักยภาพมากขึ้น ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและผลิตภาพมากขึ้นเพื่อให้คนไทยมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่มีแบบอย่างให้เรียนรู้ เราต้องหาทางแก้ปัญหาของเราด้วยตัวของเราเอง