พลิกวิกฤติเป็นโอกาส เดอะ คอฟฟี่ คลับ จับมือ “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี” ลุยดีลิเวอรี ดัน "กาแฟ-ชาสกัดเย็น" พร้อมดื่มขยายตลาด ดันยอดโตเท่าตัว
นางสาวณญาดา วรรณวิไชย ผู้อำนวยการ ฝ่ายการตลาด เดอะ คอฟฟี่ คลับ ประเทศไทย กล่าวว่า ท่ามกลางวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะนี้ การปรับตัวและปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจอย่างทันท่วงทีให้สอดรับสถานการณ์เป็นสิ่งสำคัญ โดย เดอะ คอฟฟี่ คลับ เล็งเห็นช่องว่างและโอกาสทางการตลาดในการขยายบริการส่งตรงถึงบ้าน หรือ ดีลิเวอรี เพื่อสร้างการเติบโตของยอดขายของกลุ่มเครื่องดื่มกาแฟ-ชาสกัดเย็น หรือ COLD BREW Project 5 รสชาติ ได้แก่ กาแฟดำสูตรดั้งเดิม, กาแฟดำสูตรเลมอนยูซุ, ชารสเลมอนยูซุ, ชารสลิ้นจี่กลิ่นกุหลาบ และชารสพีช
ทั้งนี้ ในช่วงสถานการณ์ปกติ เดอะ คอฟฟี่ คลับ มียอดขายเครื่องดื่มอย่างเดียว (เฉพาะชาและกาแฟ) ผ่านช่องทางแบบนั่งทานที่ร้าน ซื้อกลับบ้าน และ ดีลิเวอรี เป็นสัดส่วน 40% จากยอดขายรวม ขณะที่ช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 การจำหน่ายแบบช่องทางปกติถูกปรับเป็นซื้อกลับบ้านอย่างเดียว 80% และดีลิเวอรี 20% เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์
"เราเล็งเห็นช่องทางและศักยภาพของตลาดดีลิเวอรีที่ยังสามารถเติบโต และขยายฐานลูกค้าไปได้อีกแม้ในวิกฤติการขณะนี้ การปรับกลยุทธ์ธุรกิจต้องทำในทันที จึงเกิดเป็นไอเดียการเปลี่ยนแพคเกจจิ้งสำหรับเครื่องดื่มกาแฟ และชาสกัดเย็น 5 รสยอดนิยมในการบุกตลาด ตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปตามเวลาและสถานการณ์"
การพลิกวิกฤติเป็นโอกาสโดยการเปลี่ยนแพคเกจจิ้งเป็นแบบถุง นับเป็นการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้ามากขึ้น ต่อยอดให้การสั่งสินค้าออนไลน์ และเพิ่มความแข็งแกร่งให้ช่องทางดีลิเวอรีที่ขนส่งเครื่องดื่มได้ง่ายขึ้น ไกลขึ้น และเก็บได้นานขึ้นอีกด้วย ซึ่งบรรจุภัณฑ์ใหม่ หรือ ถุงไนลอนแบบฟู้ดเกรด แช่เย็นช่องธรรมดาได้ 14 วัน แช่ช่องฟรีส 90 วัน
เดอะ คอฟฟี่ คลับ ในไทย นับเป็นประเทศแรกในโลกที่นำร่องนำบรรจุภัณฑ์ดังกล่าวมาใช้เพื่อรองรับตลาดดีลิเวอรี่โดยเฉพาะ เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย. เป็นต้นไป ผ่านช่องทางการสั่งออนไลน์ และแบบสั่งกลับบ้าน ทั้ง 1112 ดีลิเวอรี www.1112.com หรือโทร 1112 และ สาขาเดอะ พิซซ่า คอมปะนี 75 แห่งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล คาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดจำหน่ายเติบโตขึ้นอีกเท่าตัว
สำหรับตลาดเครื่องดื่มเฉพาะชาและกาแฟในประเทศไทย ยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2562 ที่ผ่านมาเติบโต 7% นับว่าสูงเป็นประวัติการณ์ในรอบ 5 ปี ดันมูลค่าตลาดเครื่องดื่มชาและกาแฟในประเทศไทยสูงถึง 23,720 ล้านบาท แบ่งตามสัดส่วน ร้านแฟรนไซส์ (Chained Outlet) 21,579.2 ล้านบาท หรือ 90.9% ของยอดรวม ร้านแบรนด์อิสระ (Independent Outlet) 2,148 ล้านบาท หรือ 9.1% ของยอดรวม คาดว่าภายในปี 2566 ตลาดเครื่องดื่มเฉพาะชาและกาแฟในประเทศไทยจะขยายตัว 9.5% ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 32,280.9 ล้านบาท
ปี 2562 เดอะ คอฟฟี่ คลับ ประเทศไทย มียอดจำหน่ายรวม 1,000 ล้านบาท เติบโต 21% จากปีก่อนหน้า โดยสัดส่วนของยอดจำหน่ายเครื่องดื่มอย่างเดียวอยู่ที่ 43% หรือ 432 ล้านบาท เพื่อสร้างการรับรู้ในบริการดังกล่าวได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ซื้อ1แถม1 รวมถึงโปรโมชั่นอื่นๆ กับเครือข่ายพันธมิตร เฉพาะแกร็บ
ปัจจุบัน เดอะ คอฟฟี่ คลับ มีทั้งหมด 58 สาขา อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 33 สาขา ต่างจังหวัด 25 สาขา