พาณิชย์จับมือผู้ผลิตโปรโมทอาหารทะเลแช่แช็งและแปรรูปไทยไร้โควิด -19
จุรินทร์ ลุยถกผู้ผลิตอาหารทะเลแช่แข็ง-แปรรูป วาง4 มาตรการส่งออก พร้อมจับมือ 3 กระทรวงออกใบออกใบรับรองอาหารไทยไร้โควิด ด้านเอกชนมั่นใจปีนี้โต 10 %
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังการประชุมหารือผู้ผลิตสินค้าและเกษตรกรกลุ่มอาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูป และกลุ่มผู้เลี้ยงกุ้ง ว่า ภาพรวมของอาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูปของไทยตัวเลขมูลค่าการตลาดทั้งหมดในภาพรวมของปีที่แล้ว 2562 ประมาณ 172,235 ล้านบาท ผลผลิตทั้งหมด 1,188,523 ตัน บริโภคในประเทศ 22% ส่งออก 78% โดยการส่งออกปี 2562 มีมูลค่า 173,961.78 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 2.28% ของการส่งออกของไทยทั้งหมด สำหรับไตรมาสแรกยอดส่งออกทั้งหมด 37,910 ล้านบาท สำหรับไตรมาสแรกนั้น ติดลบ 9.77%
“การส่งออกที่ลดลงเกิดจาการมาตรการล็อคดาวน์ของประเทศคู่ค้า แต่ภาคเอกชนก็ยังเห็นว่า โอกาสที่จะพลิการส่งออกให้เป็นบวกยังมีอยู่ คาดว่า ในไตรมาส 3 และ 4 น่าจะดีขึ้น” นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับตลาดหลักประกอบด้วยสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีนและออสเตรเลีย โดยสหรัฐอเมริกา 21.4 % ญี่ปุ่น 20.7% จีน 6.3 % และออสเตรเลีย 5.4 % อาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูปที่ส่งออก 5 อันดับแรก ประกอบด้วย 1. ปลาทูน่ากระป๋องปลาซาร์ดีนกระป๋อง 2.อาหารสัตว์เลี้ยงที่ทำจากทูน่า3.กุ้ง 4.ปลาหมึก และ5.ปลา โดยทูน่ากระป๋อง เป็นผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกเป็นลำดับหนึ่งของโลกมีส่วนแบ่งการตลาด 28.5% มูลค่าการส่งออกปีที่แล้ว 67,673.3 ล้านบาท สำหรับปีนี้สามารถทำยอดออกมาเป็นบวกได้ 3 % ส่วนไตรมาสที่สองภาคเอกชนประเมินว่าจะสามารถทำตัวเลขเป็นบวกได้ไม่น้อยกว่า 10 % สำหรับตลาดหลักของมีสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย
นายจุรินทร์ กล่าวว่า จากการประชุมได้จัดทำแผนการส่งออก ใน 4 มาตรการ คือ 1.การช่วยลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์โดยเฉพาะกระป๋อง ซึ่งส่วนใหญ่จะต้องรับซื้อจากในประเทศซึ่งมีราคาที่ค่อนข้างสูง โดยมอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศ ในการช่วยนัดผู้ผลิตเหล็กผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์กระป๋องและผู้แปรรูปและผู้ส่งออกในเรื่องอาหารทะเลมาพบเพื่อหาทางร่วมกันในการที่จะลดต้นทุน 2. กระทรวงพาณิชย์จะเร่งรัดในการเจรจาเอฟทีเอกับสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรหรือยูเค รวมทั้งจะเดินหน้าทำเอฟทีเอกับแอฟริกาและกลุ่มประเทศยูเรเซีย รวมทั้งการดำเนินหน้าที่จะผลักดันให้เกิดการลงนามในข้อตกลงอาร์เซ็ปให้ได้ในปีนี้
นายจุรินทร์ กล่าวว่า 3. กระทรวงพาณิชย์จะจับมือกับภาคเอกชนในการเดินหน้าหาส่วนแบ่งเพิ่มเติมใน 4 ตลาด 1.จีน 2.รัสเซีย 3.แอฟริกาใต้ 4.อเมริกาใต้ ซึ่งกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศก็จะไปทำแผนงานที่เป็นรูปธรรมออกมาว่าเราจะจับมือเดินไปตลาดเหล่านี้ได้อย่างไรบ้าง และมาตรการสุดท้าย คือ 4. การสร้างภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์อาหารไทยให้เป็นที่ยอมรับของชาวโลกมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของความปลอดภัยของอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวิกฤติโควิดเพื่อให้คนทั้งโลกได้เกิดความมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์อาหารจากประเทศไทยที่ส่งออกไปนั้นปลอดจากโควิด
“กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตร กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทยจะมีการจับมือร่วมกันทำ MOUในการไปให้หนังสือรับรอง COVID free certificate ว่าผลิตภัณฑ์จากโรงงานปลอดจากเชื้อโควิดได้ 100% เพื่อที่จะใช้เป็นอีกเอกสารในการโฆษณาอาหารไทยกับตลาดโลกต่อไปเพื่อทำตัวเลขในไตรมาสที่เหลือให้ดีขึ้นสำหรับหมวดอาหารทะเลแปรรูปแช่แข็ง”นายจุรินทร์ กล่าว
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและนายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทยกล่าวว่า แม้โควิด-19 จะกระทบต่อตลาดอาหาร อาหารสำเร็จรูป ปลากระป๋องแช่แข็ง ในธุรกิจบริการ เช่น ภัตตาคาร โรงแรม การบิน แต่ตลาดสำหรับผู้บริโภคโดยเฉพาะการจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า มียอดการจำหน่ายเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากประชาชนซื้อไปบริโภคที่บ้าน จึงเป็นโอกาสทางการตลาดของอาหารแช่แข็ง ในส่วนที่สองคือวัตถุดิบค่อนข้างที่จะมีเสถียรภาพในแง่ของจำนวนกับราคาดีพอควร กุ้งที่มีปัญหาอยู่ในแง่จำนวน ที่ผ่านมาทางรัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรฯก็ได้ทำงานอย่างแก้ไขปัญหามาโดยตลอด
นายชนินทร์ ชลิศราพงศ์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทยและนายกสมาคมการค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไทย กล่าวว่าขณะนี้ ปัญหาคลี่คลายดีมากก็คิดว่าอาหารทะเลโดยเฉพาะปลาสามารถมีวัตถุดิบเพียงพอในการป้อนตลาดต่างประเทศเรามั่นใจว่าปีนี้ทั้งปีตัวเลขจะโตไม่ต่ำกว่า 10%