อ.ส.ค.เร่งปรับแผนธุรกิจ ‘Thai-Denmark Milk Land’ ดึงมืออาชีพบริหารแฟรนไชส์
"อ.ส.ค." เร่งหาตัวแทนบริหารแฟรนไชส์ "ไทย-เดนมาร์กมิลค์แลนด์" ปรับกลยุทธ์อุ้ม 100 สาขาหลังโควิดกระทบยอดขายตก
นายสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ รองผู้อำนวยการทำการแทนผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวว่า เพื่อรับมือกับเศรษฐกิจช่วงภาวะวิกฤติโควิด-19 และช่วยส่งเสริมการตลาดให้กับผู้ประกอบการแฟรนไชส์ร้าน Thai-Denmark Milk Land อ.ส.ค.อยู่ระหว่างสรรหาตัวแทนบริหารธุรกิจแฟรนไชส์ร้าน Thai-Denmark Milk Land ซึ่งมาจากผู้ประกอบการ หรือนิติบุคคลที่ดำเนินกิจการเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจร้านอาหารหรือเครื่องดื่มที่สนใจเข้าร่วมงานกับ อ.ส.ค.
ทั้งนี้ผู้ที่สนใจจำนวน 4 รายมารับฟังคำชี้แจง TOR แล้ว และจะยื่นซองเสนอแผนงานและผลตอบแทนกับ อ.ส.ค.ในวันที่ 27 เม.ย.2563 โดยผู้ที่ผ่านเกณฑ์พิจารณาสามารถดำเนินงานได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2563 เป็นต้นไป
สำหรับแนวทางการบริหารธุรกิจแฟรนไชส์ร้าน Thai-Denmark Milk Land ในอนาคตจะเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการในลักษณะ Full Management Service ด้วยระบบ Supply Chain ในการบริหารจัดการระบบแฟรนไชส์ร้าน Thai-Denmark Milk Land ทุกสาขา ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 100 สาขาทั่วประเทศ และมีผู้ประกอบการที่สนใจยื่นใบสมัครใหม่อยู่ระหว่างพิจารณาของ อ.ส.ค.อีกกว่า 100 สาขา ในจำนวนดังกล่าวเป็นการลงทุนเองของ อ.ส.ค. 4 แห่งคือ สาขามวกเหล็ก 2 แห่ง, สาขาไอคอนสยาม และที่กำลังก่อสร้างแห่งที่ 4 คืออีโค มิลค์แลนด์ สาขาที่ 9 ตั้งอยู่ อ.มวกเหล็ก
ทั้งนี้การนำระบบดังกล่าวมาใช้เพื่อให้มีความครอบคลุมในการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าให้กับ อ.ส.ค.ผ่านร้าน Thai-Denmark Milk Land ด้วย รวมทั้งวางแผนโฆษณาประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ผ่านสื่อต่างๆ ของร้านอย่างครบวงจร โดยเตรียมประกาศเปิดรับสมัครอีกครั้งหลังวันที่ 1 พ.ค.2563 เป็นต้นไป
ทั้งนี้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้สร้างผลกระทบในวงกว้างและส่งผลกระทบต่อธุรกิจแฟรนไชส์ร้าน Thai-Denmark Milk Land ของ อ.ส.ค.ด้วย เพราะจำหน่ายแบบสั่งกลับได้เท่านั้น
“อ.ส.ค.จะเร่งดำเนินการมอบหมายให้ตัวแทนบริหารธุรกิจแฟรนไชส์ที่ได้รับการคัดเลือกเข้ามาบริหารธุรกิจนี้ของ อ.ส.ค.อย่างมืออาชีพโดยเร็ว และเร่งให้การสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ประกอบการแฟรนไชส์ร้าน Thai-Denmark Milk Land ที่เปิดกิจการไปแล้วให้ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน”