ผบ.ตร.สั่งตั้งกก.สอบวินัยร้ายแรง สารวัตรฌาปนกิจ ยักยอกเงินทำศพ

จากกรณีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวกรณีข้าราชการตำรวจ สังกัดฝ่ายฌาปนกิจสงเคราะห์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติยักยอกเงินที่ได้จากฌาปณกิจหลวงไปใช้ส่วนตัว และไม่ชำระค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการสั่งชุดอาหารว่างดอกไม้ โลงศพ ชุดสังฆภัณฑ์และอาหารในงานฌาปนกิจสงเคราะห์ตำรวจหลายรายตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้พ.ต.อ.กฤษณะพัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่าได้รับรายงานจากกองกำกับการฝ่ายฌาปนกิจสงเคราะห์ ว่า ข้าราชการตำรวจ รายดังกล่าว คือ พ.ต.ต. ธีร์ธดลย์พันธ์สนิท สว.ฝ่ายการฌาปนกิจสงเคราะห์ (ดูแลรับผิดชอบ วัดตรีทศเทพ) มีหน้าที่ควบคุมดูแลการดำเนินงานฌาปนสถานรวมถึงการเก็บเงิน ส่งเงินบำรุงการใช้ฌาปนสถานให้กับทาง สำนักงบประมาณและการเงิน (ตร.)ต่อมาทาง พ.ต.ต. ธีรดลย์ฯ ไม่ส่งเงินตามระเบียบ เมื่อมีการทวงถามก็อ้างว่ากำลังรวบรวมหลักฐานทางการเงิน

โดยในเรื่องนี้ได้ดำเนินการตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามคำสั่งฝ่ายการฌาปนกิจสงเคราะห์ สก. ที่ 9/2563 ลง 4มี.ค. 63 โดยกล่าวหาว่าไม่ได้นำส่งเงินรายได้งานฌาปนสถาน และไม่ได้มาปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายซึ่งผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง พิจารณาแล้วเห็นว่าพฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหาเป็นการกระทำอันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการอย่างร้ายแรงเห็นควรตั้งกรรมการวินัยร้ายแรงต่อไป

สำหรับประเด็นที่ พ.ต.ต.ธีร์ธดลฯ ได้ติดต่อผู้ประกอบการ สั่งซื้อสินค้าเพื่อนำไปใช้ในงานฌาปณกิจสงเคราะห์ตำรวจโดยเจ้าภาพงานศพได้ชำระค่าใช้จ่ายให้แก่ พ.ต.ต.ธีร์ธดลฯ ไปแล้วแต่ทาง พ.ต.ต.ธีร์ธดลฯ ไม่ยอมนำเงินมาชำระให้แก่ทางผู้ประกอบการนั้นเบื้องต้นได้รับรายงานจาก สน.ชนะสงคราม ว่า มีผู้เสียหาย ที่เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ในเรื่องดังกล่าวจำนวน 3 ราย โดยดำเนินคดีในข้อหาความผิดฐาน "ยักยอกทรัพย์" ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

รอง โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า ในส่วนที่ พ.ต.ต.ธีร์ธดลฯ ได้ไปหลอกผู้อื่นเพื่อเบียดบังเอาทรัพย์ไปนั้น ขอเรียนว่าเป็นเรื่องของบุคคลไม่เกี่ยวกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง พร้อมดำเนินคดีกับตำรวจที่กระทำผิดกฎหมายรายดังกล่าวโดยยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทางผู้เสียหายและเอาผิดกับตำรวจที่ทุจริตในคดีอาญาจนกว่าคดีจะถึงที่สุดประกอบกับให้ คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และเร่งสอบสวนเอาผิดกรณีเบียดบังทรัพย์สินของทางราชการเป็นของตน พร้อมดำเนินการลงทัณฑ์ทางวินัยอย่างเด็ดขาดไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป