บุญรอดฯเร่งสร้าง รายได้ รับ “สิงห์อาสา” พยุงประชาชนกระทบพิษโควิด ยันจ้างงานพนักงานกว่า 25,000 คน
บุญรอดบริวเวอรี่ ช่วยสร้างรายได้ บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน ชวนเป็นอาสาสมัคร-รับเบี้ยเลี้ยง ผ่านโครงการสิงห์อาสา ผนึกเครือข่ายเปิดอบรมทักษะวิชาชีพ ลุยทันทีเดือนพ.ค.นี้ 3 โครงการ ย้ำวิกฤติโควิด ยังจ้างงาน 2.5หมื่นคน
นายปิติ ภิรมย์ภักดี กรรมการ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เปิดเผยว่า นายวุฒา ภิรมย์ภักดี ประธานกรรมการบริษัทฯ และนายสันติ ภิรมย์ภักดี ประธานกรรมการบริหาร บริษัทฯ ได้มอบนโยบายเร่งด่วนบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในเรื่องของปากท้องและการสร้างอาชีพ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้ผลกระทบในช่วงโรคโควิด-19 ระบาด
ทั้งนี้ การสร้างรายได้มุ่งช่วยทั้งระยะสั้นและระยะยาว ผ่านโครงการสิงห์อาสาทั่วประเทศ จะทำทันทีเดือนพ.ค.นี้ ด้วยการเปิดรับจิตอาสาทำงานดูแลท้องถิ่นของตน โดย 3 โครงการเร่งด่วนที่จ้างงานทันที ได้แก่ โครงการสิงห์อาสาสู้ไฟป่า คลอบคลุม 10 จังหวัด ภาคเหนือ และภาคตะวันออก โครงการสิงห์อาสาสู้ภัยแล้ง คลอบคลุม 20 จังหวัดภาคอีสาน และโครงการสิงห์อาสาป้องกันน้ำท่วม คลอบคลุม 7 จังหวัดภาคกลาง ซึ่งอาสาสมัครที่เข้าร่วมในแต่ละโครงการจะได้รับเบี้ยเลี้ยงและสวัสดิการอาหาร
นอกจากนี้ ยังมีโครงการทางด้านการเกษตรอีกหลายโครงการ ที่จะทำร่วมกับศูนย์ภูมิปัญญาชาวบ้านสิงห์อาสา 4 จังหวัด เช่น เชียงราย ขอนแก่น และสุราษฎร์ธานี ส่วนโครงการในระยะยาว สิงห์อาสา ได้จัดโครงการอบรมเสริมอาชีพ โดยร่วมกับ เครือข่ายของสิงห์อาสาทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
เช่น มหาวิทยาลัย สถาบันอาชีวศึกษา รวมถึงบริษัทในเครือ นำองค์ความรู้มาอบรมสร้างอาชีพให้กับประชาชน มีรายได้เลี้ยงตัวเองอย่างยั่งยืน ทั้งการฝึกทักษะอาชีพช่างพื้นฐาน เช่น ช่างไฟฟ้า ช่างประปา ช่างก่อสร้าง ทักษะการซ่อมแซมสิ่งพื้นฐานที่มีความจำเป็นภายในบ้าน ร่วมกับชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารในเครือสิงห์ฯทั่วประเทศ สอนการทำเมนูเด็ด 77 จังหวัด เป็นต้น
สำหรับการช่วยเหลือสังคมในด้านต่างๆ ถือเป็นปรัชญาการทำงานของบริษัทฯ ตามเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้งบริษัทฯ “พระยาภิรมย์ภักดี” ที่ทำต่อเนื่องจนเป็นแนวปฏิบัติถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นยาวนานกว่า 87 ปี โครงการ โดยสิงห์อาสา ภายใต้การดำเนินการของ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และ มูลนิธิพระยาภิรมย์ภักดี เป็นเครือข่ายขนาดใหญ่คลอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม ปีนี้บริษัทเตรียมงบประมาณเพิ่ม 50 ล้านบาท เพื่อส่งมอบความช่วยเหลือไปยังบุคคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย และโครงการต่างๆช่วยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากโควิด จากก่อนหน้านี้ส่งมอบความช่วยเหลือคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท
ทั้งนี้ แม้ประเทศจะเผชิญวิกฤติโควิด แต่บริษัทยืนยันการจ้างงานต่อพนักงานทุกคน และพนักงานบริษัทในเครือ รวมทั้งคู่ค่าของบริษัทฯ มีจำนวนกว่า 25,000 คน