บ้านปูฯ ชู 5 เทคโนโลยี หนุน 'บ้านปู เน็กซ์' ขยายพอร์ตโซลาร์

บ้านปูฯ ชู 5 เทคโนโลยี หนุน 'บ้านปู เน็กซ์' ขยายพอร์ตโซลาร์

บ้านปูฯ หนุน บริษัทลูก “บ้านปู เน็กซ์” ใช้ 5 เทคโนโลยี อินเทอร์เน็ตออฟติงส์ ระบบไมโครกริด ระบบกักเก็บพลังงาน เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ และบล็อกเชน ลุยขยายพอร์ตโซลาร์ รับมือ ยุคดิสรัปชัน มุ่งพลังงานสะอาด

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บ้านปู เน็กซ์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ แวดวงพลังงานทั่วโลกกำลังก้าวสู่ยุค ‘เอนเนอร์จี ดิสรัปชัน’ (Energy Disruption) ที่การใช้พลังงานรูปแบบเดิมๆ กำลังถูกพลิกโฉมสู่เทรนด์ 3Ds ได้แก่

1. Decarbonization การใช้เทคโนโลยีเข้ามาเสริมให้การผลิตพลังงานนั้นสะอาดขึ้น ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

2.Decentralization การกระจายตัวของแหล่งผลิตและจำหน่ายพลังงาน ที่ภาคเอกชน ชุมชน และครัวเรือนสามารถติดตั้งแหล่งผลิตพลังงาน อาทิ โซลาร์รูฟท็อป หรือโรงไฟฟ้าพลังงานโซลาร์ เพื่อผลิตไฟฟ้าไว้ใช้และนำไปจำหน่ายต่อได้ ซึ่งหากมีนโยบายภาครัฐสนับสนุนจะช่วยให้การกระจายตัวนี้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

และ3. Digitalization ความก้าวล้ำทางเทคโนโลยีจะเข้ามาปลดล็อกการตรวจสอบ ควบคุม และบริหารจัดการการใช้งานพลังงานสะอาดให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืนยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ข้อมูลจากเว็บไซต์ Fortunebusinessinsights.com ระบุว่าตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ทั่วโลกในปีพ.ศ. 2569 จะมีขนาดถึง 4,766 กิกะวัตต์1 

ดังนั้น ‘บ้านปู เน็กซ์’ บริษัทลูกของบ้านปูฯ ในฐานะผู้ให้บริการสมาร์ทโซลูชันด้านพลังงานสะอาดแบบครบวงจรในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก จึงได้รวบรวม 5 เทคโนโลยีที่จะเข้ามามีบทบาทกับการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยมาฝาก ได้แก่ อินเทอร์เน็ตออฟติงส์ ระบบไมโครกริด ระบบกักเก็บพลังงาน เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ และบล็อกเชน

158806556282

“นโยบายภาครัฐที่ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์เป็น 6,000 เมกะวัตต์ภายในปี พ.ศ. 2579 นั้น ทำให้ บ้านปู เน็กซ์ มุ่งขยายพอร์ตธุรกิจพลังงานสะอาดภายใต้กลยุทธ์ Greener & Smarter ให้ตอบเทรนด์การใช้พลังงานของโลกในอนาคต พร้อมนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาผสานเข้ากับระบบบริหารจัดการพลังงาน นำไปใช้พัฒนาแอปพลิเคชัน”

อีกทั้ง ยังพัฒนาระบบบริการหลังการขายของบริษัทฯ โดยเฉพาะในธุรกิจระบบผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์ ในโอกาสนี้จึงได้รวบรวม 5 เทคโนโลยีดังกล่าวสำหรับพลังงานโซลาร์ที่จะเข้ามาเสริมการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพ เสถียรภาพ คุ้มค่า และยั่งยืนยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการ หรือผู้ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานโซลาร์ มีการบริหารจัดการพลังงานที่เหมาะกับการใช้งาน หรือการดำเนินงานของแต่ละองค์กร และช่วยลดต้นทุนในระยะยาว

158806559129

นอกจากนี้ บ้านปูฯ ยังนำเทคโนโลยี 3 สิ่ง มาเสริมศักยภาพให้กับโซลาร์โซลูชัน คือ อินเทอร์เน็ตออฟติงส์ (Internet of Things - IoT) เทคโนโลยีที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ผ่านอินเตอร์เน็ต ,ระบบไมโครกริด (Microgrid) ระบบไฟฟ้าที่สามารถจ่ายไฟฟ้าแบบอิสระได้โดยไม่ต้องเชื่อมโยงกับระบบโครงข่ายไฟฟ้า หรือทำงานขนานกับระบบโครงข่ายไฟฟ้าเดิม และระบบกักเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ (Energy Storage System) หัวใจสำคัญที่จะมาช่วยยกขีดความสามารถด้านการบริหารจัดการพลังงานโซลาร์ เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งกักเก็บพลังงานสำรองไว้ใช้ในเวลากลางคืนแล้ว ยังช่วยเพิ่มเสถียรภาพของการใช้พลังงานให้ดียิ่งขึ้น

อีกทั้ง บ้านปูฯยังเล็งเห็นความสำคัญของ อีก 2 เทคโนโลยี ที่จะมีบทบาทในการเสริมศักยภาพการใช้พลังงานโซลาร์ในอนาคต คือ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence - AI) การใช้ AI สำหรับโซลาร์และแวดวงพลังงาน จะเป็นเทคโนโลยีที่จะมาช่วยในการประมวลผลดาต้าจำนวนมหาศาล และบล็อกเชน (Blockchain) เป็นเทคโนโลยีที่สามารถนำมาใช้ในการพัฒนา Energy Trading Platform ซึ่งจะเป็นเครือข่ายเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้   (Peer-to-peer Network)  ทำให้สามารถซื้อ - ขายไฟฟ้าได้โดยตรงไม่ผ่านคนกลาง ซึ่งระบบในการเก็บดาต้านี้มีความปลอดภัยสูง มีความน่าเชื่อถือ รวดเร็ว และปราศจากข้อผิดพลาดในการทำธุรกรรม จึงเหมาะกับการใช้ซื้อขายไฟฟ้าระหว่างผู้ผลิตและผู้ใช้งานแต่ละรายในระบบ โดยปัจจุบันประเทศไทย ทั้งภาครัฐและเอกชนได้ริเริ่มโครงการที่ให้ผู้บริโภคสามารถผลิตไฟฟ้าใช้เองและสามารถขายให้ระหว่างกันได้ผ่านระบบบล็อกเชน 158806568099