เปิด '6 New Normal' ของ'พยาบาล'ช่วงโควิด-19

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข ในการแถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือโควิด-19 นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ประเทศจีนกลับมามีผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็นเมืองอู่ฮั่นหรือนอกเมืองอู่ฮั่น และประเทศเกาหลีใต้ที่เหมือนจะควบคุมโรคได้แล้วแต่สุดท้ายก็มีการรายงานผู้ป่วยใหม่เกิดขึ้น ซึ่งในส่วนของประเทศไทยมีมาตรการผ่อนปรนในกิจการที่เป็นกลุ่มสีขาวมาแล้ว 11 วัน ยังเป็นเรื่องที่ดีระหว่างนี้แนวโน้มผู้ป่วยลดลง แต่จะต้องการ์ดไม่ตก มิเช่นนั้นอาจจะกลับไปมีการระบาดที่มีผู้ป่วยรายวันเพิ่มขึ้น มากกว่าเลขหลักเดียว จึงเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังมาก ทั้งการใส่หน้ากากอนามัยให้ได้ 100 % เมื่อออกนอกบ้าน ล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่างทางสังคม

“ถ้าสามารถคงสถานการณ์ไว้ดีอยู่ในระดับควบคุมได้ เชื่อว่าในวันที่ 17พ.ค.2563อาจจะมีข่าวดี คือ กิจการกลุ่มสีเขียวอาจจะมีการคลายล็อค เพื่อที่จะให้ประชาชนสามารถใช้บริการได้ นอกจากสิ่งที่เป็นนิว นอร์มอลที่ประชาชนจะต้องปฏิบัติแบบการ์ดไม่ตกแล้ว ในส่วตนของเจ้าของกิจการ หรือสถานประกอบการพึงระวัง คือ การจัดสภาพแวดล้อมของสถานที่ให้เอื้อต่อการที่จะไม่ติดเชื้อง่าย ไม่ว่าจะเป็นการจำกัดสถานที่ มาตรการทำความสะอาดตามจุดสัมผัสต่างๆตามแนวราบที่เป็นประโยชน์มากกว่าการรฉีดพ่น เป็นต้น หากดำเนินการได้เช่นนี้ประเทศไทยยังสามารถเดินหน้าต่อไปในเรื่องของการผ่อนปรนมาตรการต่างๆได้ จนที่สุดสามารถเปิดกิจการทุกอย่างได้ถ้าประชาชนให้ความร่วมมือ”นพ.อนุพงศ์กล่าว
         

       ดร.ธีรพร สถิรอังกูร ที่ปรึกษาระดับกระทรวง ด้านการพยาบาล กล่าวว่า สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของพยาบาลช่วงการระบาดของโควิด-19 กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ได้กำหนดศูนย์ประสานงานความร่วมมือของพยาบาลในภาพรวม โดยการจัดพยาบาลในการดูแลผู้ป่วย/ผู้ต้องสงสัยตามประเภทของผู้ป่วยจากอาการรุนแรงมาก ปานกลาง การคัดกรองผู้ติดเชื้อ และผู้สงสัยติดเชื้อหรืออยู่นอกโรงพยาบาล ทั้งนี้ จากข้อมูลบุคลากรด้านสุขภาพ มีการติดโควิด-19 จำนวน 103 ราย โดย 40 % เป็นพยาบาลในจำนวนนี้มากกว่าครึ่งติดเชื้อจากบริการพยาบาล อีกส่วนมาจากการที่ผู้รับบริการไม่ได้เปิดเผยข้อมูลลว่ามีปัจจัยเสี่ยง ซึ่งส่วนที่สำคัญที่สุดที่จะลดความเสี่ยงของพยาบาลคือการที่ประชาชนจะให้ข้อมูลโดยตรงกับบุคลากรทางการแพทย์ว่ามีปัจจัยเสี่ยงอย่างไร

       นางสุทธิพร เทรูยา รองผู้อำนวยการ ฝ่ายการพยาบาล สถาบันบำราศนราดูร กล่าวว่า ในการทำงานช่วงโรคระบาดโควิด-19 มี 2 ส่วนที่จะต้องยึดเป็นหัวใจสำคัญ ได้แก่ 1.ผู้ป่วยจะต้องไม่มีการแพร่กระจายเชื้อจากผู้ป่วยออกมาสู่สิ่งแวดล้อมภายนอก ผู้ป่วยอื่น หรือพยาบาล และ2.พยาบาล จะต้องไม่ติดโรคและเอาโรคจากผู้ป่วยไปติดกับผู้ป่วยรายอื่นหรือปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม โดยหลักการจะต้องปฏิบัติงานตามมาตรฐานการพยาบาลและการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาล ในส่วนของพยาบาลจะต้องมีการเตรียมการซักซ้อมการแต่งชุดอุปกรณ์ป้องกันร่างกายตามลักษณะงานในการเข้าไปดูแลผู้ป่วย ทั้งนี้ ตลอดการให้การดูแลในช่วงที่ผ่านมา โดยมีผู้รับบริการ 14,327 ราย ผู้สงสัยติดเชื้อ 5,062 ราย ผู้ป่วยยืนยัน 214 ราย รักษาหาย 210 ราย เสียชีวิต 4 ราย จึงไม่มีพยาบาลของสถาบันฯติดเชื้อ

       ด้านนางศิริมา ลีละวงส์ ผู้อำนวยการกองการพยาบาล สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า มีการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ในการให้บริการพยาบาลเพื่อให้ประชาชน มีความสุขและปลอดภัยจากการติดเชื้อ ซึ่งวิถีชีวิตใหม่ของพยาบาลเบื้องต้นมี 6 ประการ ได้แก่ 1.ในการปฏิบัติการพยาบาลทุกครั้งจะใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา และเปลี่ยนใหม่ทุก 8 ชั่วโมงหรือทุกครั้งที่หน้ากากอนามัยมีความชุ่ม เปียกเหงื่อหรือน้ำมูกของตัวเอง 2.ล้างมือบ่อยๆทั้งก่อน-หลังการให้บริการพยาบาลทุกอย่าง รวมถึงการให้บริการหัตถการทุกอย่าง 3. อาบน้ำและสระผมก่อนกลับบ้านหรือเมื่อไปถึงบ้านจะอาบน้ำทันที 4.เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนกลับบ้าน ไม่ใส่ชุดพยาบาลกลับบ้าน 5.พยาบาลทุกคนจะต้องพกเจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์ล้างมือติดตัวไว้ตลอดเวลา เพื่อให้สามารถใช้ได้ทันท่วงที และ6.ไม่สวมชุดพยาบาลไปในพื้นที่สาธารณะ ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อสู่ประชาชน เหล่านี้เป็นวิถีชีวิตใหม่ของพยาบาลที่จะต้องร่วมกันปฏิบัติ