พาณิชย์ ออกคู่มือเตือนชาวบ้าน 4 วิธีสังเกตป้องกันโดนพ่อค้าโกงตาชั่ง

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม รองอธิบดีกรมการค้าภายใน  เปิดเผยว่า  ขณะนี้เจ้าหน้าที่ของกรมการค้าภายในได้จับพ่อค้าแม่ค้าที่กระทำความผิดในการโกงตาชั่งโดยเฉพาะสินค้าประเภททุเรียนหลายรายแล้ว มีทั้งดัดแปลงเครื่องชั่งเพื่อให้น้ำหนักสินค้าเพิ่มขึ้น5ขีด จนไปถึง 1 กก. ซึ่งถือเป็นการเอาเปรียบหรือตั้งใจฉ้อโกงประชาชนอย่างมาก ดังนั้นทางกรมฯก็จะดำเนินการเพื่อดำเนินคดีอย่างหนักเนื่องจากถือว่าเป็นการตั้งใจฉ้อโกงน้ำมัน และอีกกลุ่มคือเป็นการนำเครื่องชั่งที่ชำรุดหรือสภาพเก่าซึ่งอาจทำให้สินค้ามีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 2-3 ขีด

 

 

 

 

นายวัฒนศักดิ์ กล่าวว่า   ที่ผ่านมาสำนักงานสาขาชั่งตวงวัดทั่วประเทศออกตรวจสอบเครื่องชั่งที่ใช้รับซื้อผลไม้ตามล้ง รถเร่ และพ่อค้าคนกลางตามแผงทั่วประเทศ โดยเฉพาะทุเรียนผลไม้ที่ได้รับความนิยมจากชาวบ้านในช่วงนี้อย่างมาก เนื่องจากแต่ละปีก็จะมีการตรวจพบว่าพ่อค้าแม่ค้าบางรายแอบโกงชาวบ้านด้วยการดัดแปลงแก้ไขเครื่องชั่ง โดยให้มีน้ำหมักมากกว่าปกติ และในปีนี้ก็ตรวจพบเช่นกันมีทั้งที่เจ้าหน้าที่ใช้นโยบายเชิงรุกในการตรวจสอบและมีผู้บริโภคร้องเรียน 1569 และทางกรมก็ส่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบ โดยในส่วนของการดัดแปลงส่วนประกอบของเครื่องชั่งทำให้เครื่องชั่งแสดงน้ำหนัก เกินอัตรา เผื่อเหลือเผื่อขาดการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามมาตรา 75/1 นั้นทางกรมฯยอมรับไม่ได้กับผู้ที่พฤติกรรมดังกล่าว

          

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   ขณะนี้สำนักช่างตวงวัดได้ทำข้อมูลสร้างการรับรู้ให้ประชาชนเรื่อง “รู้ไว้... ไม่โดนโกง” ผ่านเว็บไซต์กรมการค้าภายใน  ให้ประชาชนที่ซื้อสินค้าต้องพิจารณาสังเกตเครื่องชั่งด้วยกัน 4 วิธี เพื่อป้องกันไม่ให้พ่อค้าโกงตาชั่งโดยเฉพาะในช่วงนี้พ่อค้าแม่ค้านำทุเรียนมาจำหน่ายจำนวนมากทั้งร้านค้า แผงลอย รถเร่ และรถเข็น เป็นต้น โดยวิธีสังเกตุประกอบด้วย เครื่องชั่งต้องมี 2 หน้าและไม่ใช่เครื่องชั่งพลาสติก, ก่อนชั่งน้ำหนักต้องเริ่มที่เลข 0, เข็มเครื่องชั่งต้องไม่หัก เบี้ยว หรือหน้าเดียว และ การวางเครื่องชั่งต้องวางบนพื้นราบ และห้ามวางสินค้าบังหน้าหรือใช้วัสดุ/สีพ่นหน้าปัดด้านหนึ่งไว้

ขณะเดียวกันก็ได้มีการเตือนพ่อค้าแม่ค้าต้องปฎิบัติดังนี้หมายเลขบนถาดชั่งต้องตรงกับหมายเลขประจำเครื่อง, ห้ามทำลายเครื่องหมายรับรอง, มีสติ๊กเกอร์ตรวจสอบประจำปี หากตรวจพบพ่อค้าแม่ค้าฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 20,000 บาท จนไปถึงจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 280,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ