กทม.ไฟเขียว ให้สำนักงานเขตทุกแห่งเปิดให้บริการงานทะเบียนแล้ว
"ผู้ว่าฯกทม." ไฟเขียวให้สำนักงานเขตทุกแห่งเปิดให้บริการงานทะเบียนแก่ประชาชน หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายไปในทางที่ดี
เมื่อวันที่ 19 พ.ค.63 ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. ร่วมประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 44/2563 โดยในที่ประชุมแจ้งว่า ในวันพรุ่งนี้ (20 พ.ค.) กทม.จะเชิญกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริการขนส่งสาธารณะ อาทิ กรมเจ้าท่า กรมการขนส่งทางบก การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) มาประชุมหารือถึงแนวทางการให้บริการประชาชน ตามข้อกำหนดของมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด โดยเฉพาะเรื่องการรักษาระยะห่างระหว่างบุคคล เป็นต้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิดในพื้นที่กรุงเทพฯ เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี ประกอบกับ กทม.ตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชน ที่อาจมีความจำเป็นต้องใช้เอกสารหลักฐานทางการทะเบียนจึงมอบให้ฝ่ายทะเบียน สำนักงานเขต เตรียมเปิดให้บริการประชาชน ดังนี้
- วันและเวลาราชการ (วันจันทร์ - วันศุกร์) เวลา 08.00 - 16.00 น. เปิดให้บริการงานทะเบียน แก่ประชาชนในทุกประเภทงาน
- วันหยุดราชการ (วันเสาร์) เวลา 08.00 - 16.00 น. เปิดให้บริการงานทะเบียนราษฎร และงานทะเบียนบัตรประจําตัวประชาชน
- วันหยุดราชการ (วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลา 08.00 - 16.00 น. เปิดให้บริการเฉพาะการรับแจ้งตาย
สำหรับจุดบริการด่วนมหานคร (Bangkok Express Service) ซึ่งตั้งอยู่ที่ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า สถานีรถไฟฟ้า และบริเวณศาลาฯกทม. ยังไม่เปิดให้บริการ แต่ขอให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานรวมทั้งประชาชน ปฏิบัติตามข้อกำหนดของมาตรการป้องกัน อาทิ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาให้และรับบริการ รักษาระยะห่างระหว่างบุคคล และหมั่นทำความสะอาดมือและของใช้ร่วมกันด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหรือแอลกอฮอล์ด้วย
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักเทศกิจ สำนักงานเขตตำรวจนครบาล และกอ.รมน.กทม. กำหนดแผนการตรวจอย่างเข้มข้นครอบคลุมสถานประกอบการ และสถานที่ประกอบกิจกรรมทุกประเภท อาทิ ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านค้า ร้านอาหาร สวนสาธารณะ เป็นต้น รวมทั้งให้คำแนะนำประชาชนปฏิบัติตามข้อกำหนดของมาตรการผ่อนปรนอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ ขอให้ประสานผู้ให้บริการสถานประกอบการต่างๆ ขอให้จัดเจ้าหน้าที่แนะนำการสแกนคิวอาร์โค้ดของแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ" เพื่อเช็คอินก่อนเข้ารับบริการ และขอให้แนะผู้เข้ารับบริการเช็คเอาท์ทุกครั้งหลังจากออกจากสถานประกอบการเพื่อให้ได้ข้อมูลจำนวนผู้เข้าใช้บริการที่ถูกต้อง ชัดเจน ซึ่งจะส่งผลถึงผู้เข้าใช้บริการรายใหม่ที่ต้องการเข้าใช้บริการสถานประกอบการนั้นต่อไป