สมช. ชงต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน 1 เดือน ยันไม่เกี่ยวการเมือง เผย 27 พ.ค. ทบทวนเคอร์ฟิว
สมช. ชงต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีก 1 เดือน ตั้งแต่ 1-30 มิ.ย. เตรียมเสนอศบค.พรุ่งนี้ ก่อนรอ ครม. เคาะอังคารหน้า เผย 27 พ.ค. ทบทวนเคอร์ฟิว ยันไม่เกี่ยวการเมือง ชี้ยังจำเป็นต้องใช้ หวั่นโควิดระบาดซ้ำระลอก 2 ในการปลดล็อคระยะ 3-4
พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. แถลงภายหลังการประชุมพิจารณาการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า ที่ประชุมวันนี้ ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยงข้อง ทั้งด้านความมั่นคง ด้านสาธารณสุข และด้านเศรษฐกิจ มาร่วมประชุม กำหนดทิศทางการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เนื่องจาก ขณะนี้ พ.ร.ก.ฉบับนี้ ได้เริ่มประกาศใช้มาตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. และต่อมาจนถึง 31 พ.ค.นี้ ซึ่งกำลังจะหมดอายุ
ที่ประชุม จึงเห็นพ้องต้องกันว่า ควรต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อไปอีก 1 เดือน โดยครอบคุม เดือน มิ.ย. ทั้งเดือน ตั้งแต่วันที่ 1-30 มิ.ย. ซึ่งลำดับต่อไปจะนำเรื่องเข้าพิจารณาที่ประชุม ศบค. ในวันพรุ่งนี้ หากว่ามีมติเห็นชอบ ก็จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารหน้าทันที
ส่วนที่เสนอให้ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะมองว่า เมื่อต้นปีที่มีการแพร่ระบาดอย่างหนัก จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการนำพ.ร.ก.ฉุกเฉินมาใช้ ทำให้เกิดขึ้นของ ศบค. และเป็นที่มาของมาตรการต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเป็นที่น่าพอใจ จนได้รับเสียงชื่นชมจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะจากต่างประเทศ แต่ขณะนี้สถานการณ์โลกก็ยังน่าวิตกอยู่ ดังนั้น จึงต้องทำทุกสิ่ง อย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดใน ระลอก 2 ขึ้นมาอีก
พล.อ.สมศักดิ์ บอกอีกว่า การที่นำกฏหมายกว่า 40 ฉบับ มาร่วมกันภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สามารถบริหารสถานการณ์ และสั่งการได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเป็นการทำให้มาตรการทั้งต่างจังหวัดและกทม.มีมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งถือว่าเป็นข้อดี และนอกจากนี้ สำหรับการผ่อนคลายในระยะที่ 3-4 ช่วงเดือนมิ.ย.นั้น ซึ่งจะความเสี่ยงมากขึ้น จึงจำเป็นต้องมีเครื่องมือมากำกับดูแล ด้วยความระมัดระวัง โดยกลไกที่ใช้นั้นก็ คือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ส่วนการที่ฝ่ายการวิพากษ์วิจารณ์ ว่าการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นเครื่องมือทางการเมือง พล.อ.สมศักดิ์ ยืนยันว่า ตั้งแต่วันเเรกที่นายกฯ ประกาศใช้ ไม่เคยคำนึกถึงเรื่องการเมือง หรือไม่ได้นำการเมืองมาเกี่ยวข้องเลย ซึ่งใช้เพื่อควบคุมกาแพร่ระบาดของโรคเป็นหลักเท่านั้น แต่ยอมรับว่า อาจมีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของคนบางกลุ่มในเรื่องของเคอร์ฟิว
พล.อ.สมศักดิ์ ยังบอกว่า ส่วนเรื่องการพิจารณาเคอร์ฟิวนั้น จะมีการพูดคุยในการประชุมการผ่อนคลายในระยะที่ 3 อีกครั้งใน วันที่ 27 พ.ค. พร้อมย้ำว่า เคอร์ฟิว ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น เนื่องเป็นควบคุมการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนให้อยู่บ้านในระยะเวลาที่กำหนด ทำให้เป็นการชะลอการแพร่ระบาดของโรคได้เป็นอย่างดี
เมื่อถามถึงการผ่อนปรนมาตรการในระยะที่ 3 ที่จะหารือกันในสัปดาห์หน้านั้นจะมีการผ่อนปรนในเปิดโรงเรียนเลยหรือไม่ พล.อ.สมศักดิ์ บอกว่า ขึ้นอยู่กับความพร้อมของกระทรวงศึกษาธิการ ถ้าหากจะเปิดก่อนก็ต้องมีความพร้อมในเรื่องมาตรการอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดอย่างต่างประเทศ ที่กลับมาเปิดเรียนแล้วเด็กติดเชื้อ โดยต้องยึดคำประกาศของกระทรวงศึกษาเป็นหลัก ที่จะเปิดเรียนในเดือนก.ค.