คลัง จ่ายเยียวยา 'เราไม่ทิ้งกัน' แล้ว 14.5 ล้านราย จ่ายเพิ่ม 6.7 แสนรายในสัปดาห์นี้
โฆษกคลัง แจงผลงาน "เราไม่ทิ้งกัน" เผยจ่ายเงินเยียวยา 5,000 บาทแล้ว 14.5 ล้านราย เตรียมจ่ายเพิ่มอีก 6.7 แสนรายภายในสัปดาห์นี้
เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 63 นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังโอน เงินเยียวยา 5,000 บาท ในโครงการ "เราไม่ทิ้งกัน" แล้ว 14.2 ล้านราย จากจำนวนผู้ผ่านเกณฑ์ 15 ล้านราย ให้ สวนที่เหลือจะโอนเงินเยียวยาได้ครบถ้วนทั้งหมดภายในสัปดาห์นี้ โดยมีรอบการโอนวันที่ 21 พ.ค. 63 จำนวน 2.3 แสนราย และวันที่ 22 พ.ค. 63 จำนวน 4.4 แสนราย
ทั้งนี้ บัญชีของผู้รับจะต้องไม่มีปัญหาในเรื่องบัญชีไม่ตรงกับชื่อนามสกุลที่ลงทะเบียน บัญชีถูกปิด หรือไม่ได้ผูกพร้อมเพย์กับหมายเลขประจำตัวประชาชน ซึ่งจะเป็นเหตุให้การโอนเงินไม่สำเร็จ ดังนั้น สำหรับกลุ่มผู้ผ่านเกณฑ์แล้ว แต่ยังติดขัดเรื่องบัญชีสำหรับรับโอนเงินเยียวยา โปรดดำเนินการผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชนโดยเร็ว ซึ่งจะเป็นช่องทางที่สะดวกที่สุด โดยไม่ต้องดำเนินการอะไรเพิ่มเติมอีก กระทรวงการคลังจะมีการตรวจสอบและโอนเงินให้ใหม่เป็นประจำทุกสัปดาห์
สำหรับ มาตรการเยียวยา 5,000 บาท มีผู้ลงทะเบียนผ่าน www.เราไม่ทิ้งกัน.com ทั้งสิ้น 28.8 ล้านราย มีการลงทะเบียนซ้ำ 4.8 รายการ และลงทะเบียนไม่สำเร็จ 1.7 ล้านราย ทำให้มีผู้ลงทะเบียนที่เข้าสู่ขั้นตอนการคัดกรองตามหลักเกณฑ์ 22.3 ล้านราย มีผู้ผ่านเกณฑ์ 15 ล้านราย ไม่ได้รับสิทธิ 7 ล้านราย และอยู่ระหว่างการดำเนินการทบทวนสิทธิ 2.4 แสนราย
กลุ่มไม่ได้รับสิทธิ 7 ล้านราย จำแนกได้เป็นผู้ไม่ขอทบทวนสิทธิ 4.8 ล้านราย ผู้ไม่ผ่านการขอทบทวนสิทธิ 1 ล้านราย ผู้ยกเลิกการลงทะเบียนหรือยกเลิกการขอทบทวนสิทธิ 9 แสนราย และกลุ่มที่ขอข้อมูลการประกอบอาชีพเพิ่มเติม แต่ไม่ได้เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมภายในเวลาที่กำหนดประมาณ 3 แสนราย
กลุ่มที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ทบทวนสิทธิ 2.4 แสนราย คิดเป็น 1% ของจำนวนผู้ที่เข้าสู่การคัดกรองตามหลักเกณฑ์ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม 1. ผู้ขอทบทวนสิทธิ 8 หมื่นราย จะได้รับการติดต่อจากทีมผู้พิทักษ์สิทธิเพื่อนัดหมายยืนยันตัวตนและตรวจสอบการประกอบอาชีพตามที่ได้ลงทะเบียนไว้ 2. ประมาณ 1 แสนราย เป็นผู้ขอทบทวนสิทธิ ซึ่งเคยได้รับการติดต่อจากทีมผู้พิทักษ์สิทธิแล้ว แต่ไม่สามารถนัดพบได้หรือที่อยู่จริงในปัจจุบันไม่ตรงกับที่ได้ลงทะเบียนไว้ตอนขอทบทวนสิทธิ ทำให้ผู้พิทักษ์สิทธิไม่สามารถเจอตัวได้ และ 3. เป็นกลุ่มที่ผู้พิทักษ์สิทธิได้พยายามติดต่อไปหาแล้วหลายครั้งแต่ติดต่อไม่ได้จำนวน 6 หมื่นราย
“ผู้ขอทบทวนสิทธิในกลุ่มที่ 2 และ 3 กระทรวงการคลังจะมีการส่ง SMS แจ้งให้ทราบอีกครั้ง และให้ไปติดต่อที่สาขานาคารกรุงไทยที่สะดวกที่สุดเพื่อยืนยันตัวตนและการประกอบอาชีพ โดยนำบัตรประชาชนตัวจริง ไปแสดงพร้อมหลักฐานการประกอบอาชีพได้จนถึงวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 “