นายกฯ ยัน 'เงินกู้ 1.9 ล้านล้าน' แผนชัดเจน-ตรวจสอบได้

นายกฯ ยัน 'เงินกู้ 1.9 ล้านล้าน' แผนชัดเจน-ตรวจสอบได้

"พล.อ.ประยุทธ์" นำทีม ครม. ร่วมประชุมสภาฯถก 3 พ.ร.ก.วันนี้ ยันกู้เงิน 1.9 ล้านล้าน มีแผนชัดเจน-โปร่งใส ตรวจสอบได้ ขณะที่ เพื่อไทย เล็งชำแหละ ปมล้มเหลวรัฐบาล ตั้งแต่ก่อนสถานการณ์โควิด เล็งเสนอแก้ พ.ร.ก. หลังผ่านสภาฯ

 ความเคลื่อนไหวก่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงินจำนวน 3 ฉบับ มูลค่า 1.9 ล้านล้านบาท ซึ่งจะมีขึ้นในวันนี้ (27 พ.ค.) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ใช้เวลาในการเตรียมข้อมูลความพร้อมในสภาฯ ที่จะพิจารณา พ.ร.ก.เงินกู้ 4 ฉบับ เนื่องจากมีข้อมูลเป็นจำนวนมากและในวันนี้ (27 พ.ค.) นายกรัฐมนตรี และ คณะรัฐมนตรี(ครม.)จะเดินทางไปสภาด้วยตัวเอง

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ฝากตอบคำถามสื่อมวลชน ต่อกรณีข้อห่วงใยของฝ่ายค้านที่ห่วงว่าจะนำเงินไปใช้ไม่ถูกวัตถุประสงค์นั้น ได้ระบุว่าเรื่องของการใช้เงินกู้ 1 ล้านล้านบาทนั้น ได้กำหนดไว้ชัดเจนว่า จะต้องนำไปใช้ในเรื่องใดบ้าง และทุกโครงการที่เสนอขึ้นมา ต้องมีแผนงานอย่างชัดเจน โดยมีคณะกรรมการกลั่นกรองทำหน้าที่พิจารณา นอกจากนั้น ยังมีระบบตรวจสอบในอีกหลายส่วนรวมถึงภาคประชาชนที่สามารถร่วมกันตรวจสอบการใช้เงินกู้ของ พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท

นอกจากนี้ รัฐบาลจะมีการนำทุกโครงการเข้าสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยดูแลรายละเอียดของโครงการ และช่วยกันตรวจสอบ รัฐบาลขอยืนยันว่าจะใช้เงินกู้ทุกบาททุกสตางค์ได้คุ้มค่า และมีประสิทธิภาพ ช่วยเหลือประชาชนได้ครอบคลุมให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้

เช่นเดียวกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวว่า ตนไปร่วมประชุมแน่นอน ส่วนการกำชับ ส.ส.พรรคพปชร.ในการเข้าประชุม พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธตอบคำถามดังกล่าว

พปชร.ติวเข้มส.ส.ถก3พ.ร.ก.

วันเดียวกัน พรรค พปชร.ประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ โดยมีนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม และมีเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลัง มาชี้แจงทำความเข้าใจ เกี่ยวกับ พ.ร.ก.กู้เงิน ทั้ง 3 ฉบับ

โดยนายวิรัช ได้ชี้แจงถึงกรอบเวลาในการอภิปรายว่า การประชุมทั้งหมด 5 วัน รวม 48 ชั่วโมง แบ่งเป็นฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล ฝั่งละ 24 ชั่วโมง โดยในส่วนของรัฐบาล แบ่งเป็นคณะรัฐมนตรี 11 ชั่วโมง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล 11 ชั่วโมง ส่วน 2 ชั่วโมง ให้เป็นการชี้แจงประเด็นที่ฝ่ายค้านสงสัย

ไร้เงาประวิตร-3กุมารร่วมถก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค พปชร.และ รมว.คลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และ รมว.พลังงาน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค และรมว.การอุดมศึกษาฯ รวมถึงพล.อ.ประวิตร ไม่ได้เข้าร่วมประชุม ท่ามกลางกระแสข่าวความขัดแย้งเรื่องการแย่งชิงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่

 รวมทั้งเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา นายอุตตม และนายสนธิรัตน์ได้เรียกประชุมส.ส.กว่า 40 คน ที่กระทรวงการคลัง เพื่อซักซ้อม พ.ร.ก.เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท ก็ไร้เงาของ ส.ส.กลุ่มนายวิรัช และกลุ่มสามมิตร รวมทั้งนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง

 ต่อมานายสันติ เปิดเผยหลังการประชุมว่า​ ได้เชิญเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการคลัง ​เจ้าหน้าที่สำนักงบประมาณ​ เพื่อมาให้ความรู้กับ ​ส.ส.ของพรรค ถึงวาระสำคัญของ​ พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าว​ สามารถนำไปอภิปรายในสภา และอธิบายกับประชาชนได้ว่า มาตรการในเยียวยาประชาชนต่างๆ เป็นอย่างไร

​นอกจากนี้​ ยังมีการซักซ้อมทำความเข้าใจ และแบ่งทีมอภิปราย คิดว่า ​พ.ร.ก.ดังกล่าว เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ในภาวะวิกฤติเช่นนี้ ตนเชื่อว่า ส.ส.ของฝ่ายค้านเอง ซึ่งเป็นผู้แทนราษฎร เข้าใจว่า พ.ร.ก.ดังกล่าว จำเป็น ในการแก้ปัญหาอย่างไร ​และยังมั่นใจว่า ฝ่ายค้านให้ความร่วมมือ ฟันฝ่าวิกฤติครั้งนี้

ส่วนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในพรรค ​พปชร.ขณะนี้ กำลังช่วยกันแก้ไขปัญหาโควิด-19และปัญหาเศรษฐกิจ ยังไม่มีเวลาที่จะหารือกัน เรื่องภายในพรรค รอให้พ้นตรงนี้ไปอีกพักนึงก่อน

เพื่อไทยจ่อชำแหละ 4 พ.ร.ก.

ส่วนความเคลื่อนไหวฝ่ายค้าน นายโภคิน พลกุล กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย แถลงผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยว่า พรรคเพื่อไทยเห็นด้วยกับการดำเนินการเยียวยาประชาชนและเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่การดำเนินการของรัฐบาล จะต้องเป็นไปอย่างจริงใจ โดยไม่มีนัยใดๆแอบแฝง โดยเฉพาะการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมการทำกิจกรรมของประชาชน จะต้องไม่มีนัยทางการเมือง

สำหรับการอภิปรายของพรรคเพื่อไทย ในการประชุมสภาจะนำเสนอให้เห็นถึงปัญหาของรัฐบาลตั้งแต่ก่อนเกิดการระบาดหนักของโควิด-19 จนเกิดการขาดดุลงบประมาณต่อเนื่อง มาตั้งแต่ยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พรรคจึงมีความกังวลต่อการบริหารจัดการเงินกู้จำนวน 1.9 ล้านล้านบาทว่า เงินเหล่านี้จะถึงมือของประชาชน หรือไม่อย่างไร

คงพ.ร.ก.ฉุกเฉินกระทบศก.

ด้านนายวัฒนา เมืองสุข กรรมการยุทธศาสตร์พรรคกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยห่วงความเปราะบางของเศรษฐกิจไทย โดยมีการคาดการณ์จากหลายสำนักว่า ประเทศไทยจะติดลบประมาณ 6% การส่งออกจะหดตัว ส่วนการบริโภคภายในอันเป็นกำลังซื้อจะลดลงอย่างรุนแรง เศรษฐกิจไทยเวลายืนอยู่ได้เพราะการลงทุนภาครัฐที่มาจากเงินกู้เป็นหลัก 

ดังนั้น รัฐบาลต้องสร้างความชัดเจนและสร้างความเชื่อมั่น เพื่อให้ประชาชนคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดอะไรกับประชาชนบ้าง อย่างการคงพ.ร.ก.ฉุกเฉินไปเรื่อยๆ โดยไม่มีความชัดเจนว่าจะบังคับใช้ไปอีกนานแค่ไหน จะทำให้เศรษฐกิจของประชาชนเดินหน้าต่อไปไม่ได้3

จ่อชงแก้พ.ร.ก.หลังผ่านสภา

ขณะที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา กรรมการยุทธศาสตร์เพื่อไทย กล่าวว่า สาระสำคัญของ พ.ร.ก.กู้เงินมีความบกพร่องหลายประการ เช่น การควบคุมการใช้เงินที่มีความหละหลวม และเงื่อนไขของกฎหมายทำให้เอสเอ็มอีที่เข้าถึงเงินกู้นี้ได้เพียงประมาณแสนราย จากเอสเอ็มอี ที่ทั้งหมดประมาณ 3 ล้านราย 

ด้วยเหตุนี้ภายหลังสภาเห็นชอบพรรคเพื่อไทยจะเสนอร่างพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.ทั้ง 3 ฉบับทันที เพื่อให้เนื้อหาสาระสำคัญที่สามารถช่วยเหลือประชาชน และตรวจสอบการใช้เงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พิธาป่วยถอนตัวทีมอภิปราย

ส่วนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกลโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊คโดยระบุว่า ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนผู้แทนราษฎรทุกคนทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ ผมจะกลับมาในเร็ววัน ผมจำเป็นต้องประกาศให้ทราบว่าปัญหาการบาดเจ็บเรื้อรังมาเป็นเวลานานที่บริเวณต้นคอได้ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นและจากการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายท่าน ได้ลงความเห็นว่าจำเป็นต้องเตรียมตัวเข้ารับการผ่าตัดและพักฟื้นร่างกายในทันที 

ดังนั้น ตั้งแต่วันพุธที่ 27 พ.ค. เป็นต้นไป ผมจะไม่สามารถเข้าสภาพร้อมกับเพื่อน ส.ส. พรรคก้าวไกลทุกคน ผมรู้สึกเสียดายและเสียใจที่ไม่สามารถเข้าไปทำหน้าที่ผู้แทนของพี่น้องประชาชนในวาระเปิดสมัยประชุมสภานี้ได้ ทั้งนี้เมื่อผมพักฟื้นและอาการหายดีขึ้น จะกลับมาทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคก้าวไกลอย่างเต็มที่อีกครั้ง