นายกฯ ยันมีกลไกตรวจสอบใช้งบตามพ.ร.ก.กู้เงิน
นายกฯ ยันมีกลไกคุมเข้มเสนอโครงการฯ ตรวจสอบใช้งบตามพ.ร.ก.กู้เงิน
เมื่อวันที่ 27 พ.ค.63 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 พ.ศ. 2563) จำนวน 3 ฉบับ นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นอกจากแผนงานในโครงการกู้เงินต่างๆที่ต้องตอบโจทย์ให้ได้ว่า นำไปใช้ทำอะไรบ้างแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างคือ เรื่องความโปร่งใสในการใช้งบประมาณที่ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพราะใช้เพียงแค่คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้งบประมาณตามพ.ร.ก.ฉบับนี้ และกลไกปกติในการตรวจสอบ ทั้งที่เป็นการกู้เงินสูงสุดในประวัติศาสตร์
จึงควรมีมาตรการตรวจสอบการทุจริตมากกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ควรมีองค์กรพิเศษมาตรวจสอบการใช้งบประมาณเงินกู้ครั้งนี้ ในระดับชาติควรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญมาตรวจสอบ เพราะจะให้คณะกรรมาธิการสามัญในสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบอย่างเดียวคงไม่พอ ขณะที่ในระดับพื้นที่ควรให้มีคณะกรรมการภาคประชาชนร่วมตรวจสอบคู่ขนานไปด้วย ไม่รวมกับองค์กรปกติทั้งป.ป.ช. ป.ป.ท. และสตง.ที่ต้องจับตาการใช้งบประมาณรอบนี้เป็นพิเศษ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงต่อที่ประชุมว่า การงบประมาณด้านสาธารณสุขของรัฐบาลว่าเรามีงบในส่วนนี้อยู่ 4.5 หมื่นล้านบาทยืนยันว่าวันนี้มีการใช้จ่ายไปบางส่วนเท่านั้น ส่วนข้อเรียกร้องในการดูแลบุคคลากรทางการแพทย์ทั้งข้าราชการ ลูกจ้าง หรืออสม. เรามีระเบียบการใช้จ่ายให้กับบุคลากรในแต่ละหน้าที่อย่างชัดเจน
ส่วนเรื่องกรรมการกลั่นกรอง ยืนยันว่าการตรวจสอบโครงการต่างๆต้องผ่านกลไกของพื้นที่ ขณะเดียวกันยังมีหน่วยงานเช่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ทำหน้าในการตรวจสอบซึ่งเราคิดเรื่องต่างๆเหล่านี้ไว้อยู่แล้ว