นายกฯ ขออย่ามองแต่เรื่องทุจริตออก 'พ.ร.ก.กู้เงิน'
นายกฯ ขอทุกฝ่ายการ์ดอย่าตก เดินต่อ ผ่อนมาตรการโควิด-19 เฟส 3 สู่เฟส 4 โดยเร็วที่สุด ยอมรับไม่สบายใจให้เดินทางเข้า-ออกประเทศ พอใจแจงสภาอภิปราย "พ.ร.ก.เงินกู้" วันที่ 2 ขออย่ามองแต่เรื่องทุจริต พร้อมระบุ หากสอบพบหักค่าหัวคิวจริง ต้องถูกลงโทษ
เมื่อวันที่ 28 พ.ค.63 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุถึงมาตรการผ่อนคลายระยะใน 3 ว่า จะต้องมีการหารือกัน โดยต้องคำนึงถึงผลกระทบด้านความมั่นคงและป้องกันการแพร่ระบาดไว้ให้ได้ ก็ต้องเป็นห่วง
ทั้งนี้ มีความเป็นห่วงด้านสาธารณสุข รวมถึงด้านเศรษฐกิจ ที่ทุกคนการ์ดต้องไม่ตก หลักปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ที่มีอยู่ และจะต้องมีมาตรฐานกลางออกมา ไม่ว่าจะเป็นการเปิดโรงเรียน หรือ สถานที่ต่างๆ หากเราร่วมมือกันแบบนี้ก็จะเดินหน้าไปสู่การผ่อนคลายในระยะที่ 4 ได้ต่อไป
โดยรัฐบาลเองก็อยากให้ถึงระยะที่ 4 โดยเร็วที่สุด แต่จะต้องระมัดระวังไม่ให้มีการแพร่ระบาดเหมือนในต่างประเทศ ที่ผ่อนปรนเร็วเกินไป เพราะสิ่งที่รัฐบาลคำนึงถึงมากที่สุดคือความปลอดภัยของประชาชน โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะผ่อนปรนมาตรการระยะที่ 3 ในกิจการต่างๆให้มากที่สุด แต่ก็ต้องคำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมาด้วย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกิจการที่มีความเสี่ยงสูงก็ยังต้องระมัดระวังต่อไป เพื่อไม่ให้สิ่งที่ทำไปทั้งหมดเกิดความเสียหาย โดยยอมรับว่า ส่วนตัวก็ไม่ได้สบายใจนัก โดยเฉพาะเรื่องการผ่อนคลายให้เดินทางเข้ามาในประเทศ ที่จะปล่อยเสรีไม่ได้ เพราะต้องคำนึงถึงสถานที่กักกันของรัฐต้องเพียงพอ และการควบคุมโรค ทุกอย่างต้องยึดตามหลักการ
ส่วนการร่วมอ่านถ้อยแถลงในกิจกรรม High – Level Event on Financing for Development in the Era of COVID-19 and Beyond (การเงินเพื่อการพัฒนาในยุคโควิด-19) นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องของความร่วมมือระหว่างประเทศ รวมทั้งจะพูดถึงสิ่งที่ไทยได้ทำมาในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด- 19 ยกตัวอย่าง เช่น ขณะนี้ไทยกำลังดำเนินการคิดค้นวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งจะถือว่าเป็นเรื่องสาธารณะที่เป็นประโยชน์กับหลายๆประเทศได้
สำหรับภาพรวมการชี้แจงอภิปราย พ.ร ก.เงินกู้ วันที่ 2 นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกอะไร ขึ้นอยู่กับความเข้าใจซึ่งกันและกัน เพราะว่าเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายมีความตั้งใจทำงานให้กับประชาชน ขออย่ามองแต่ในเรื่องของการทุจริตที่ยังไม่เกิดขึ้น ทุกคนต้องร่วมมือกันและตรวจสอบ ที่ขณะนี้ก็มีช่องทางในการตรวจสอบหลายหน่วยงานอยู่แล้ว เช่น ป.ป.ช และ ป.ป.ง.
ขณะที่ความคืบหน้าการตรวจสอบกระบวนการหักค่าหัวคิวสถานที่ State Quarantine ในขณะนี้นั้น ได้ส่งรายชื่อผู้ที่ถูกร้องเรียน ที่มี 3-4 คน ไปแล้ว แต่ก็จะต้องตรวจสอบว่ามีความเกี่ยวข้องกับใครบ้าง ซึ่งหากพบว่ากระทำความผิดจริง ก็จะต้องถูกลงโทษ โดยยืนยันว่า เป็นเรื่องของบุคคล ไม่ใช่เรื่องของหน่วยงาน ขอขอบคุณที่มีการจ้างเบาะแสดังกล่าวเข้ามา เพราะทุกคนต้องช่วยกัน